Translate

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

kirby's story of star ep 2 : เด็กชายผู้สวมใส่หน้ากาก

         "นายชื่ออะไรเหรอ"
         "....."
         "นี่ๆ รึว่าเขาจะความจำเสื่อม"
         เคอร์บี้ถามเพื่อนใหม่ของเขาสองคน บุ๊คกับอุ้ม วันนี้เป็นวันที่สามที่เขามาฝึกงาน แต่แล้วเขาก็เจอเด็กชายชาวแคปปี้เหมือนกับเขา แต่เพียงว่าเขานั้นแตกต่างจากคนอื่น
         "แล้วทำไมเขาต้องใส่หน้ากากไว้ล่ะ"
         "เอาน่า ช่างเขาเถอะ"
         "เอ่อ......"
         ..........
         วันนี้ก็เป็นเช้าวันที่สามของการมาฝึกงานของฉันที่นี่
         ก็เหมือนเดิมนะ ตอนเช้าเงียบๆ กลางวันง่วงนอน ตอนเย็นก็อยากเลิกไวๆ แต่ก็สนุกกว่าเรียน เพราะได้ทั้งอบขนมปัง ขายของ ไอ้เรียนน่ะ ช่างมันไปเถอะ ฉันไม่สนอยู่แล้ว
         "เคอร์บี้ๆ นายอ่านข่าวนี่ยัง"
         บุ๊คเรียกฉันตอนที่ฉันกำลังเดินลงจากบันไดด้วยความงัวเงีย เขายื่นหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดมาให้ฉันดู
         ดินแดนลึกลับเหรอ?
         "ใช่ ดินแดนลึกลับ อยู่กลางทะเล ห่างจากเกาะแคปปี้ไปอีกตั้งร้อยกิโลนู่น แต่ก็ไม่เคยมีใครเข้าไปได้ซักคนน่ะสิ เพราะอากาศบริเวณนั้นปั่นป่วนมากๆ วุ่นวายสุดๆ"
         บุ๊คส่ายหน้าเบาๆ และพูดต่อกับฉัน
         "ซักวันนึงเราไปเที่ยวที่นั่นพร้อมกันนะ!"
         โอเคๆ แต่จะไปที่นั่นมันลำบากนี่นา นายพูดเมื่อกี๊เองนะ?
         ยังไงวันนี้ก็ปกติเหมือนทุกวัน แต่เมฆครึ้มเชียว อีกไม่นานฝนตกแน่ๆล่ะ
        "จะว่าไปแล้ว วันนี้ไม่กะมีลูกค้าเลยเนอะ"บุ๊คพูดกับฉันต่อ"เพราะไอ้ฝนที่จะตกแน่ๆเลย"
        ตามที่พยากรณ์อากาศบอก วันนี้จะมีพายุพัดเข้าฝั่ง คลื่นทะเลจะเกินสองเมตรซะอีก ร้ายแรงสุดๆ เรือใหญ่ยังไม่กล้าออกจากฝั่งด้วยซ้ำ ดีนะที่มาก่อนที่พายุจะมา ไม่งั้นคงต้องค้างอยู่กลางทะเลหลายชั่วโมง
        เอาเป็นว่าวันนี้ เจ้าของร้านปิดร้านเร็วเกินคาด เริ่มปิดตั้งแต่เที่ยง เพราะว่าพายุก็ใกล้มาถึง เดี๋ยวจะเก็บของเข้าไปในร้านไม่ทัน
        "งั้นพวกเธอเข้าไปในบ้านก่อนนะจ๊ะ พายุลูกนี้แรงมาก เดี๋ยวฝนจะสาดใส่ ไม่สบายเอา"
        ฉันตอบรับไปและเดินเข้าไปในทันทีที่เจ้าของร้านสั่ง แต่ไม่รู้ทำไม มีอะไรดลใจให้ฉันมองไปข้างๆร้าน
        นั่นอะไรน่ะ...?
        ..........
       "ทุกคน ดูนั่นสิ"เคอร์บี้ชี้ไปทางนอกร้านที่เพิ่งเก็บเสร็จ"นั่นมัน...อะไรน่ะ"
       ทุกคนที่ยืนอยู่หันไปมอง อุ้มพูดแนวประชดว่าขยะล่ะมั๊ง ส่วนบุ๊คบอกว่าอาจจะเป็นถุงดำที่ลมพัดปลิวมาก็ได้
       "งั้นฉันไปดูหน่อยนะ"
       "ระวังด้วยนะ พายุมาแล้ว เดี๋ยวทรงตัวไม่อยู่"บุ๊คพูดด้วยความเป็นห่วง เขาเลยเดินออกไปด้วย
       "อืม น่าจะเป็นขยะนั่นแหล่ะนะ เอ๊ะ"
       เคอร์บี้สังเกตเห็นอะไรเงาๆแว๊บๆออกมา เขาจึงเปิดถุงขยะออกดู เขากับบุ๊คต้องตกใจที่เขาเจอกับเด็กชายชาวแคปปี้ตัวเล็กๆที่นอนคดตัว และร้องโอยเบาๆ
       เด็กชายคนนั้นมีจุดแปลกหลายจุด เขาดูหิวโซมาก เขาเหมือนเพิ่งข้ามทะเลมาโดยไม่ได้มาทางเรือ เขามานอนซุกตรงนี้ และเขาสวมหน้ากากสีเงินที่เหลือแค่ช่องให้ตามองได้และสามารถเอาอาหารเข้าปากได้เท่านั้น ผ้าคลุมสีม่วงของเขาเป็นคล้ายผ้าห่มที่คลุมกันลมแรงๆในตอนนี้
       "แย่แล้ว เอาไงดีล่ะ"บุ๊คดูลนลานมาก"แม่...แม่! มีคนมานอนตรงนี้!"
       เจ้าของร้านรีบวิ่งออกมา และบอกว่าพาเขาเข้าไปข้างในก่อน
       ..........
       "นายชื่ออะไรเหรอ"
       "....."
       "นี่ๆ รึว่าเขาจะความจำเสื่อม"
       "แล้วทำไมเขาต้องใส่หน้ากากไว้ล่ะ"
       "เอาน่า ช่างเขาเถอะ"
       "เอ่อ......"
       เด็กคนนั้นมองมาที่ฉันและทำท่าเหมือนจะอ้าปากพูด แต่สุดท้ายก็ไม่พูด ข้างนอกหน้าต่างตอนนี้ฝนกำลังตกหนัก ลมแรงมาก
       "มีอะไรเหรอ"ฉันถามเด็กคนนั้นไปอย่างงั้น อาการน่าเป็นห่วงจังแฮะ สรุปจะพูดมั๊ยล่ะ
       "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว นายนอนพักไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะติดต่อทางสถานีตำรวจให้"บุ๊ค อุ้ม กับเจ้าของร้านเดินออกไป ฉันก็จะเดินออกไปด้วย แต่เด็กคนนั้นจับมือฉันเอาไว้ก่อน
       "อย...อย่าทิ้งฉัน...ไว้คนเดียว อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวเลย...ขอร้องล่ะ..."
       เด็กคนนั้นดูท่าทางจะกลัวคนมาก เหมือนระแวงอะไรอยู่ซักอย่าง
       "ขอร้องล่ะ....อย่าทิ้งฉันไว้ ฉันไม่อยาก....กลับไปที่นั่นอีก...."
       ที่นั่น? ที่ไหนล่ะเนี่ย
       "เอ่อ ขอโทษนะ ที่นั่นน่ะ มันที่ไหนเหรอ"ฉันถามเขาไปอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ตอบกลับมา เขาพยายามซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม ห้องนี้เป็นห้องข้างๆห้องฉัน ทุกอย่างเหมือนกันหมด ยกเว้นแต่ห้องนี้ไม่มีกระถางดอกไม้ตั้งริมหน้าต่าง
       เด็กคนนั้นดูท่าทางซึมๆ เหมือนไม่สบาย หรือว่าเป็นอะไร แต่ฉันก็เอายา เอาข้าวมาให้เขา เขาก็ไม่กิน ได้แต่มอง
       "จะเอายังไงกับเด็กคนนั้นดีล่ะ"อุ้มถาม เธอยืนเล่นเกมอยู่ริมหน้าต่างชั้นสองของร้าน"จะแจ้งตำรวจเรื่องคนหายมั๊ย?"
       "ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะไม่ยอมพูดอะไรเลยนะ"บุ๊คหันไปทางเจ้าของร้าน และเจ้าของร้านก็มองมาทางฉัน
       "แต่เด็กคนนั้นพูดกับฉันนะ เห็นบอกว่า อย่าทิ้งเขาไว้คนเดียว น่ะสิ"ฉันตอบทุกคน ทำให้ทุกคนแปลกใจ
       "อย่าทิ้งไว้คนเดียว...?"บุ๊คทวนคำตอบ"หมายความว่าไงเนี่ย"
       "อาจจะเจออะไรร้ายๆมาก็ได้นะ"เจ้าของร้านถามขึ้นมา"แต่ถ้าพูดกับเคอร์บี้ แม่คิดว่าเขาอาจจะไว้ใจเธอก็ได้มั๊ง"
       ไว้ใจฉันเนี่ยนะ ฉันมีอะไรที่น่าไว้ใจบ้างล่ะ
       "นายลองไปถามเขาก็ได้ ในเมื่อเขาไว้ใจนายที่สุด"อุ้มปัดรับผิดชอบมาที่ฉัน ซึ่งฉันต้องเดินเข้าไปถามและอยู่กับเขาสองคน
       ..........
       "นายน่ะ ชื่ออะไรเหรอ"เคอร์บี้ถามเด็กชายที่สวมหน้ากาก
       "...เมต้าไนท์...ปีนี้อายุสิบสองแล้วล่ะ...."
       "เหรอ อายุเท่ากันเลย! เราน่าจะได้เป็นเพื่อนกันนะ! ฉันชื่อเคอร์บี้ ยินดีที่ได้รู้จัก"เคอร์บี้ยิ้มตอบ"ว่าแต่ ทำไมนายถึงบอกว่าอย่าทิ้งให้นายอยู่คนเดียวล่ะ"
       "...คือ....เอ่อ.....คือ....."
       "ไม่เป็นไร บอกมาเถอะ ฉันรับฟังทุกคนอยู่แล้ว!"เคอร์บี้ยังคงยิ้มสู้ต่อไป แต่ในใจเขาหงุดหงิดจะแย่อยู่แล้ว
       "ฉัน....ถูกคน...ไล่ล่าอยู่น่ะ บอกไปนายก็ไม่เข้าใจ...."
       "บอกมาเถอะน่า ฉันเข้าใจทุกคนนั่นแหล่ะ"เคอร์บี้หันหลังไปชงชาซองให้และยื่นมาที่เมต้าไนท์ "ชามั๊ย ทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นด้วยนะ"
       "...ขอบคุณนะ...ทำไมนายต้องดีกับฉันขนาดนี้ด้วยล่ะ..."
       "ไม่รู้สิ ฮาฮ่า ปกติฉันก็แบบนี้ตลอด"
       "ต่างจากฉันสินะ...เพื่อนก็มี....ฉันไม่มีเพื่อนเลย....เกิดมาพ่อแม่ก็ตาย...ปมด้อยจังนะ"
       เคอร์บี้ถึงกับเงียบทันที เมต้าไนท์มองมาที่เคอร์บี้
       "ฉันน่ะ...ถูกเลี้ยงมาพร้อมกับพี่แล้วก็เด็กคนนึง แต่ทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงจำเด็กคนนั้นไม่ได้....ทั้งที่เหมือนผ่านมาไม่นานนี้..."
       "หมายความว่าไง....ที่นายพูดมา"เคอร์บี้ถามต่อไป
       "ซักวันนายจะรู้เองแหล่ะ...ถ้าคนที่ตามล่าฉันอยู่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่...เดี๋ยวฉันจะไปแล้วล่ะ...."เมต้าไนท์ลุกออกจากเตียงแต่เขาร้องโอ๊ยดังขึ้นมา
       "นายยังไปไม่ได้นะ ขานายยังเจ็บอยู่เลย"เคอร์บี้รีบเข้ามาประคองเมต้าไนท์"ทำไมล่ะ"
       "เดี๋ยวพวกนายจะเดือดร้อนไปด้วยน่ะสิ"
       "ไม่เดือดร้อนหรอกน่าาาาาาาาาาาาา"
       บุ๊ค อุ้ม รีบเปิดประตูพุ่งเข้ามา เจ้าของร้านทำหน้าตาลนลาน
       "แม่บอกว่าอย่าไปยุ่งไงล่ะ!"
       "นายไม่ต้องไปฟังแม่ฉันหรอกนะ! เดี๋ยวฉันช่วยนายเอง!"บุ๊คบอกเมต้าไนท์ และบอกให้เขาทำตัวสบายๆเหมือนบ้านตัวเอง
       "ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าใครตามล่านายอยู่ แต่ทำตัวสบายๆเหมือนที่บุ๊คว่าเถอะนะ"อุ้มบอกเมต้าไนท์ "ไม่ได้ทำกับข้าวนานละ เดี๋ยวแสดงฝีมือให้ดูแล้วกัน รับประกันจากคุกกิ้งมาม่าสามสิบสมัย!"
       "เฮ้ยยยยย ไม่เอาาาาาา"บุ๊ครีบปิดปากอุ้ม "เธอก็รู้ว่าถ้าเธอทำอาหารทีไร ไม่มีใครกินทุกที"
       แต่อุ้มกัดมือบุ๊ค ทำให้เขาร้องจ๊าก
       "ไม่รู้ล่ะ แต่เย็นนี้ เคอร์บี้ต้องพาเมต้าไนท์ลงมากินนะ!"
       "ซวยแน่ๆ"บุ๊คบ่นเบาๆ
       ..........
       "จะทานละนะคะ/ครับ"
       ทุกคนที่อยู่บนโต๊ะอาหารเริ่มลงมือกินอาหารที่สั่งมาจากร้านกับข้าวข้างๆบ้าน ยกเว้นเมต้าไนท์ที่นั่งเฉยๆ
       "เอ้า ทำไมไม่กินล่ะ? กุ้งนี่อร่อยนะ เอ้า"บุ๊คหยิบกุ้งตัวโตลงจานข้าวของเมต้าไนท์ให้ "ปูผัดผงกระหรี่ก็อร่อย ผลไม้ก็หวานใช้ได้ด้วย"
       เมต้าไนท์ยังคงมองจานข้าวต่อไป และเขาค่อยๆหยิบช้อน ตักข้าวเข้าปาก
       ทุกคนรีบมองมาที่เมต้าไนท์ และตกใจ เพราะว่าเขามีน้ำตาไหลออกมา
       "เป็นอะไรเหรอ?!? มีอะไร"เคอร์บี้ถามเมต้าไนท์ทั้งที่ข้าวยังอยู่ในปากเต็ม
       "...อร่อย....ไม่ได้กินอะไรที่อร่อยแบบนี้มานานแล้ว....อร่อยจัง"เมื่อเมต้าไนท์พูดจบ เขาก็รีบตักคำที่สอง คำที่สามเข้าปากไปเรื่อยๆ ทุกคนจึงยิ้มออกมาอย่างสบายใจ และแล้วอุ้มก็ลุกขึ้น
       "เอาล่ะ ในเมื่อแบบนี้แล้ว ฉันจะเอาน้ำมาให้นะ"
       อุ้มเดินเข้าไปประมาณสองสามนาทีก็เดินออกมาพร้อมกับน้ำสีขุ่นๆสองแก้ว
       "สำหรับเคอร์บี้และเมต้าไนท์โดยเฉพาะ แม่กับบุ๊ค..หมดสิทธิ์"
       "ใครอยากกินแต่ทีแรกล่ะ"บุ๊คบอก"ฉันว่าอย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่านะ"
       เคอร์บี้กับเมต้าไนท์ไม่สน พวกเขาเริ่มหยิบแก้วน้ำมาดูด เคอร์บี้ทำหน้าขมขื่นทันที
       "อือหืออออ อาวุธชีวภาพเหรอ"
       "อาวุธชีวภาพอะไรล่ะ ของมีประโยชน์ทั้งนั้น คื่นช่ายเอย มะเขือเทศเอย ต้นหอมเอย..."
       ก่อนหน้าที่อุ้มจะพูดจบ เมต้าไนท์ก็สำลักทันที
       "อ๋อย...ใช่ว่าใส่ทุกอย่างจะมีประโยชน์หมดนะ แค่กๆ"
       "เฮ้! นายไม่พูดตะกุกตะกักแล้วนี่นา!"บุ๊คยืนขึ้น
       "เอ๋"
       "นายไม่รู้ตัวเหรอว่านายเริ่มพูดมากขึ้นแล้วน่ะ"บุ๊คยังพูดต่อไป
       "เอ๋ ทำไมล่ะ..."
       เคอร์บี้ยังคงนั่งทำหน้าขมขื่นต่อไป แต่ก็พยายามพูด
       "นายน่ะ กำลังจะ...แค่กๆ อ๋อย..มีความสุขแน่ๆ"
       "ฉันเนี่ยนะ....ฉันเหรอ..."เมต้าไนท์นั่งนิ่ง
       ทุกคนยังคงนั่งมองเมต้าไนท์ต่อไป ทำท่าทางลุ้น
       "ไม่รู้สิ แต่ว่า ความรู้สึกนี้ ตั้งแต่ตอนมานั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ ทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก รู้สึกปล่อยวางจากความกลัวได้"
       เมต้าไนท์พูดออกมาแบบนี้ ทำให้ทุกคนหัวเราะ
       "เอ๋? ฉัน..ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?"
       "ไม่ใช่หรอกจ๊ะ เธอรู้สึกแบบนี้ดีแล้วล่ะ"เจ้าของร้านเดินมาทางเมต้าไนท์ และลูบหัว"ถึงแม้ว่าจะเจออะไรมากัน แต่ถ้าเราอยู่กับใครซักคน แล้วทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ ดีแล้วล่ะ ดีจริงๆ"
       เมต้าไนท์ทำท่าทางเหมือนจะเขินๆ และก้มหน้าลง
       "แต่ว่าถ้าคนที่ตามล่าผมมา แล้วรู้ว่าผมอยู่กับพวกคุณ..."
       "เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลังเหอะน่า!!!"เคอร์บี้บอก"แค่มีความสุขกับตอนนี้ก็พอแล้วล่ะ!"
       "....อ..อื้ม!"เมต้าไนท์ตอบรับ
       "งั้นพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปแจ้งตำรวจล่ะกัน เรื่องนี้จะปิดเป็นความลับดีที่สุดแล้ว"เจ้าของร้านบอก ทำให้เมต้าไนท์พยักหน้าตอบรับ
       ..........
       ...
       ....
       'คิดว่าจะพักอยู่ที่นี่ได้อีกกี่น้ำเชียว....'
       'เอาไว้หาจังหวะได้ เดี๋ยวฉันจะตามกลับมาเอง...เมต้าไนท์....'