Translate

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

kirby's story of star ep 8 : ดอกไม้ที่ไร้สีสัน - กระจกเงา -

      "เสียงอุ้มนี่!"บุ๊คตะโกนขึ้นมา เขาเดินอยู่ชั้นล่าง "เกิดอะไรขึ้น!"
      "พี่! ขึ้นไปดูกันเถอะ!"เมต้าไนท์รีบดึงคิลเลอร์ตามมาด้วย พวกเขาร้อนรนใจมากที่ได้ยินเสียงหนึ่งในเพื่อนของพวกเขาร้องขึ้นมา
      "เคอร์บี้! เคอร์บี้น่าจะดูไปทันอยู่นะ! เขาอยู่ชั้นนี้!"คิลเลอร์วิ่งนำหน้าไปก่อน เมื่อถึงชั้นที่อุ้มอยู่ เขาจึงไม่รอช้า เปิดประตูเข้าไป แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องถอยหลังออก และเอามือน้อยๆมาปิดช่วงแถวปาก
      "อะ...อะไรกัน...."คิลเลอร์มองห้องนั้น ห้องที่เต็มไปด้วยซากหมอนฉีกขาด ใยนุ่นเกลื่อนทั่วห้อง แจกันแตกกระจาย สภาพราวกับมีการต่อสู้เกิดขึ้นในห้องนี้ คิลเลอร์หันไปมองรอบๆห้อง เขาเห็นอุ้มนั่งซบหัวเข่าอยู่ตรงมุม มือข้างซ้ายมีรอยโดนมีดเฉียน ยังคงมีเลือดออก
      "อุ้ม!"บุ๊ครีบเดินเข้าไปและกอดเธอไว้"เป..เป็นไรมากมั๊ย! เกิดอะไรขึ้น!"
     ทันใดนั้นน้ำตาของอุ้มก็ไหลลงมาข้างแก้มทั้งสองข้าง เธอร้องไห้โฮออกมาและกอดบุ๊คกลับ
      "ชั้น...ชั้นกลัว! ชั้นกลัวจริงๆนะรอบนี้!"เธอพูดออกมา และเอามือให้บุ๊คดู
      "ชั้น...ชั้นต้องกันตัว เด็กคนนั้นอยู่ๆก็คลั่งขึ้นมาอีกรอบ ไม่รู้ว่ามีมีดมาจากไหน แล้วเด็กคนนั้นก็พยายามจะแทงชั้นให้ได้ ชั้น...ชั้นเอามือมารับ เลยมีแผลแบบนี้"เธออธิบาย"หลังจากนั้นชั้นก็เอาแจกัน เอาหมอน อะไรก็ได้มาขว้างใส่เขา แล้วเขาก็พังหน้าต่างออกไป..."
      "บ้าน่า! จากชั้นสามเนี่ยนะ!"คิลเลอร์พูด เขารีบเดินไปดูตรงหน้าต่าง "ไม่มีทางที่จะกระโดดลงไปได้อย่างปลอดภัยแน่!"
       "แล้ว..เคอร์บี้ล่ะ?"เมต้าไนท์ถามอุ้ม"เขาอยู่ชั้นเดียวกัน เขาก็ต้องได้ยิน และมาก่อนพวกเราแน่ๆ"
       "ชั้น...ไม่เห็นเขานะ"อุ้มตั้งสติได้ แล้วตอบกลับไป ทำให้ทุกคนสงสัย
       "เอ๋?"บุ๊ครีบวิ่งไปทุกห้องทันที แล้ววิ่งกลับมา
       "มะ...ไม่อยู่! เคอร์บี้ไม่อยู่แล้ว!"
       "ไม่ได้ออกไปไนด้วยนี่"คิลเลอร์พูด"ยิ่งบ้ากันเข้าไปใหญ่! อะไรเนี่ยยยยย!!!!"
       ..........
       อือ...
       ที่นี่.......
       ที่ไหน.......
       ชั้น ที่ไม่รู้สึกตัวหลังจากที่ชั้นกำลังจะวิ่งมาที่ห้องอุ้ม มันเกิดอะไรขึ้นกัน แล้วอุ้มเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยมั๊ย
       "อ้าว.....สวัสดีครับ...."
       เสียงคนที่ชั้นคุ้นหูดังขึ้น หรือว่า....
       "คุณคงเป็นเคอร์บี้ คนที่สามารถล้างบาปทั้งห้าได้ใช่มั๊ย"
       "ชั้นรู้...ชั้นรู้ คุณคงอยากบอกว่า ปล่อยชั้นไปเถอะ ใช่มั๊ยครับ"
      "แหมๆ ขอโทษนะครับ คงไม่ได้หรอก..."
      "เพราะว่า เรา...ยังมีเรื่อง....ที่ต้องจัดการอยู่....ไงครับ....."
      เสียงนั่น ทำให้ชั้นขนลุกขึ้นมา เป็นเสียงที่น่ากลัวที่สุดที่ชั้นเคยได้ยินในชีวิตได้ด้วยมั๊ง ตอนนี้ชั้นเริ่มลนลาน อยากจะเอาตัวรอดให้ได้ แต่ทำไม มีอะไรพันตัวชั้นอยู่เนี่ย
      "อ๊ะ อยากเห็นงั้นเหรอ"เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง"ก็ได้ครับ เอ้า"
      จริงๆด้วย เด็กคนนั้น เด็กคนที่มีบาปอีกคน
      "อ่างอาบน้ำบ้านชั้นสวยมั๊ย ชอบมั๊ยครับ"
      "แล้วที่ชั้นพันเทพรอบตัวนาย ก็เพราะไม่อยากให้นายหนีไปไงล่ะ..."
      "และนี่คือ....จุดจบ...ของคุณ......เคอร์บี้....ครับ...."
      หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เปิดน้ำจากก็อกลงมายังปลายเท้าชั้น ท่อระบายน้ำถูกอุดเอาไว้ ตัวชั้นที่ถูกมัดทั้งมือ ปาก และตัวทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากว่าจะมีปาฏิหาริย์ว่าใครมาช่วย แต่โอกาสนั้นแทบจะไม่เลย หรือว่านี่จะเป็นวันตายของชั้นกันนะ....
     ยังไงก็คงมีแค่ตายเท่าไหร่แหล่ะ แต่ทำไมเขาถึงต้องมาฆ่าชั้นด้วย ชั้นไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เพราะว่าชั้นเป็นคนที่ล้างบาปได้? แต่ชั้นก็ล้างบาปนั่นไปแล้วนี่นา ไม่เข้าใจเลย
     ไม่เข้าใจเลย....ซักนิด
     ชีวิตชั้น....
     ตอนชั้นยังเด็ก มีอุบัติเหตุใหญ่กับชั้น ชั้นก็รอดตายได้มาอย่างปาฏิหาริย์แต่แลกกับการที่สูญเสียความจำบางส่วนและเมื่อถามคนที่รู้ ทุกคนต่างปิดปากเงียบ....
     เมื่อประมาณชั้นอยู่ ป.3 ก็มีคนเคยเดินผ่านมาทายทักดวง ตอนนั้นชั้นอยู่กับแม่ แม่ไม่เชื่อเรื่องนี้ เลยรีบพาเดินหนีไป ถ้าจำไม่ผิด เขาคนนั้นบอกว่า...
     [เจ้าหนู! อีกสามปีข้างหน้าจะเกิดภัยครั้งใหญ่กับตัวเธอ!]
     แสดงว่า...จริงสินะ เขาทายถูกจริงๆ ใช่แล้ว ชั้นจะต้องตายตอนนี้แน่ๆที่เขาจะบอก
     "โอ๊ะโอ นึกอะไรอยู่เหรอครับ..."เขาพูดขึ้นมา"ความทรงจำ...รึเปล่าครับ...."
     "งั้น....ชั้นจะเล่าความทรงจำของผมให้คุณฟัง....เอามั๊ยครับ คุณก็เล่าให้ฟังด้วยนะ....เคอร์บี้...."
     "เรื่องราวมันมีอยู่มาว่า...."
     [เมื่อราวๆปีที่แล้ว ชั้นก็เด็กธรรมดาๆ คล้ายกับคุณนั่นแหล่ะ แต่แล้ววันหนึ่ง ชั้นก็ไปชอบเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอน่ารักมาก เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย ใครๆก็อยากคบด้วย ตัวชั้นที่ไม่มีอะไรเลย ก็ได้แค่นั่งเฉยๆ ตัวชั้นที่ไร้ความสามารถ และอีกใจหนึ่งก็อยากที่จะได้เธอมาครอบครองแค่ชั้นคนเดียว ในคืนนั้นชั้นกำลังส่องกระจกอยู่ ชั้นกำลังจะเอาผ้าโพกตัวสีแดงออกจากหัว ทันใดนั้นผ้าผืนนั้นก็มีแสงประหลาดขึ้น พร้อมกับมีเงาประหลาดในกระจก บอกกับชั้นว่า สนใจที่จะทำสัญญากับชั้นมั๊ย เขาบอกชั้นว่า ชั้นจะได้ทุกอย่างที่ชั้นอยากได้ แต่ต้องแลกกับสิ่งหนึ่ง...]
     เขาหยุดพูด และแกะเทปที่ปิดปากชั้นออก
     "ทายสิครับ...ว่าคืออะไร..."
     เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่เยือกเย็น ระดับน้ำถึงครึ่งตัวได้แล้ว ชั้นพยายามตั้งสติ เล่นไปตามเกมของเขา
     "ตอบมาสิครับ..."
     "นายต้องเป็นคนที่มีบาปแห่งความริษยา และต้องมาฆ่าชั้นที่เป็นคนที่สามารถล้างบาปได้สินะ..."ชั้นตอบกลับไปตามที่ชั้นนึกได้ สิ่งที่เป็นไปได้ตอนนี้คงมีแค่นี้
     "อ๊ะ เก่งจังครับ...เอาล่ะ มาฟังต่อเถอะนะครับ..."
     [ชั้นแลกสิ่งนั้นกับการที่ชั้นจะได้เด็กผู้หญิงคนนั้นมาเป็นแฟน มาคบด้วยกัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ขอเลิกกันไป ชั้นโมโหมาก ต่อมาเธอไปคบกับผู้ชายคนอื่น ชั้นยอมไม่ได้...ยอมไม่ได้ ชั้นจึงไปที่กระจกนั่นอีกครั้ง บอกว่าทำไมถึงไม่เป็นจริง แล้วเขาก็บอกว่า....]
     "ยังไม่ได้ฆ่าชั้น....สินะ"ชั้นตอบกลับไปอีกรอบ เขาปรบมือเบาๆ
     "ครับ ฉะนั้น เพื่อที่จะได้เธอคืนมา...ชั้นจึงต้องฆ่าคุณไงล่ะครับ...."
     ระดับน้ำจะจมตัวชั้นได้อยู่แล้ว อีกแค่นิดเดียว และแล้วมันก็จมตัวชั้นลงไป....
     ชั้นพยายามจะดิ้นรน แม้ว่าจะไร้ผล แต่มีสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นชั้นเอาไว้ให้ทำ
     ชั้นต้องมีชีวิตรอดให้ได้...
     ชั้นเห็นสายตาของเด็กคนนั้นก่อนที่ชั้นจะหมดสติไป สายตาของเขาดูเหมือนจะสมใจมาก และปากของเขาก็ขยับ พูดอะไรบางอย่างอยู่ คล้ายๆว่า
     เดี๋ยวก็เจอเองแหล่ะ...คำตอบ...ที่แท้จริง...
     ..........
     "ชั้นว่าอาจถูกบานดาน่าจับตัวไปนะ!"อุ้มที่เอาผ้ามาพันมือ แต่ลักษณะเห็นได้ชัดว่าเลือดยังคงออกอยู่วิ่งมาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน พี่ชายฝาแฝดอีกคน และแม่ของตัวเองพูดขึ้นมา บุ๊คบอกทางกับเธอ และเธอวิ่งเร็วมากจนดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเจออะไรเลวร้ายมาก่อนหน้านี้ พวกเขากำลังวิ่งตรงไปยังร้านดอกไม้ที่บานดาน่า หรือเด็กผู้ชายที่ทำร้ายอุ้มจนบาดเจ็บอยู่
     "คิดถูกนะที่วิ่งมาเอา ถ้านั่งรถต้องไม่ทันแน่ๆ! วันนี้รถติดมากเลย!"บุ๊คพูดต่อ เขาวิ่งตามอุ้มมาทีหลัง สภาพหอบมาก เขาไม่เก่งเรื่องการออกกำลัง
     "อีกไกลมั๊ยเนี่ย! ช..ชั้นเป็นห่วงสุดๆเลยนะ!"คิลเลอร์ที่วิ่งตามหลังถามขึ้นมา เขาร้อนรนยิ่งกว่าใคร
     "ประมาณอีกแค่ 50 เมตร...อ๊ะ! นั่นไง!"บุ๊คชี้ให้อุ้มและทุกคนเห็นร้านดอกไม้ที่เขามาเมื่อเช้ากับเคอร์บี้ หน้าร้านดูปกติ แต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลจากก็อก
     "เสียงน้ำนี่....รึว่า!"เมต้าไนท์รีบวิ่งเข้าไปตามเสีนงน้ำไหล น้ำไหลนองเต็มพื้น ไหลออกมาจากอ่างที่น้ำล้นออกมาและไม่มีท่าทีที่จะมีใครปิด เขาไม่สนใจ วิ่งไปดูในอ่าง และพบร่างเคอร์บี้ที่หมดสติอยู่ก้นอ่าง
     "เคอร์บี้!"เมต้าไนท์รีบปิดน้ำ พยุงตัวเคอร์บี้ขึ้นมาจากอ่าง ยังโชคดีที่มาทัน เมต้าไนท์เอามือมาปั้มหัวใจเคอร์บี้ทันที ไม่นานเคอร์บี้ก็สำลักน้ำออกมา
     "แค่ก! แค่ก! อือ.....อ"เคอร์บี้ลืมตามองเมต้าไนท์ และโผเข้าไปกอดทันที
     "ชั้นนึกว่าชั้นจะตายซะแล้ว!!!!!"เคอร์บี้ร้องไห้ออกมา"เขา.....เขาพยายามจะฆ่าชั้นให้ได้!"
     "นายรู้มั๊ยเพราะอะไร"เมต้าไนท์เอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวเคอร์บี้เอาไว้"แต่เอาไว้ทีหลังก็ได้นะ"
     "เขา...เขาบอกว่า สิ่งที่เขาขอจะยังไม่เป็นจริง ต่อเมื่อชั้นยังไม่ตาย....เขาบอกว่า เขาเจอคนที่บอกกับเขาขอทุกอย่างได้ในกระจก...."เคอร์บี้เงียบไปชั่วครู่"ใช่แล้ว! กระจก!"
     "กระจก? ทำไม?"อุ้มถามด้วยสีหน้างุนงง
     "ถ้ากระจกนั่นมีคนที่บอกให้เขาทำอะไรอยู่ แสดงว่ากระจกนั่นคุมเขา! ชั้นรู้ว่านั่นไม่ใช่เขาแน่ๆ!"
     เคอร์บี้รีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองของร้านดอกไม้ด้วยท่าวิ่งที่สะเปะสะปะ ไม่มั่นคง แต่พอประคองตัวเองได้ ทุกคนจึงตามขึ้นไป และได้เห็นสิ่งที่อยากจะเชื่อกับตาของพวกเขา
     กระจกเงาบานหนึ่ง เด็กชายคนที่ทำร้ายเขา และเด็กอีกคนที่หน้าตาคล้ายกันทุกอย่าง แต่ทว่าอยู่ในกระจก กำลังเอามือทุบกระจกเหมือนจะออกมาให้ได้
     เคอร์บี้มองที่เด็กในกระจก ปากขมุบขมิบได้ว่า
     คนนั้นคือตัวปลอม
     "ตัวปลอม!?"เคอร์บี้ถอยหลัง เด็กคนนั้นหันหลังกลับมา และทักทายกลับด้วยคำพูดคล้ายๆกับก่อนหน้านี้
     "ครับ..ตัวปลอม และนั่นคือเหตุผลที่วาพ์บสตาร์ใช่ไม่ได้ผลไงครับ ชั้นแสดงละครตบตาเพื่อสบหาโอกาสมาจับตัวคุณไป แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นตัวของเด็กสาวคนนั้น...อุ้มใช่มั๊ยครับ ที่โดนทำร้ายก่อน"
     "เอาตุ๊กตาทองไปเลย...."อุ้มพูดขึ้นมา"ชั้นก็เล่นเกมไม่ได้อีกนานน่ะสิ!!!!!!"
     "คนที่อยู่ในกระจกตอนนี้คือตัวจริงของคนที่มีบาปแห่งความริษยาอยู่ครับ บานดาน่าตัวจริงไงล่ะ....ถ้าพวกคุณคิดว่าจะช่วยเขาออกมาจากกระจกได้ก็เชิญครับ มีแค่ชั้นเท่านั้นที่รู้..."
     บานดาน่า'ตัวปลอม'ท้าทายเต็มที่ แต่ว่าเคอร์บี้นั้นรู้แก่ใจอยู่แล้วว่าควรจะทำอย่างไรเพราะริมฝีปากของบานดาน่า'ตัวจริง'ที่อยู่ในกระจกนั้นบอกเขาว่า
     ทำลายกระจกนี่ซะ
     เคอร์บี้ไม่รอช้า เขารีบหยิบไม้ถูพื้นที่อยู่ใกล้มือที่สุดมาพังกระจกเงานั้นทันที คิลเลอร์ที่ไม่เข้าใจเหมือนกับคนอื่นรีบตะโกนขึ้นมา
     "นายจะบ้าเหรอ!!!! ถ้าทำอย่างนั้น....หือ?"
     คิลเลอร์สังเกตเห็นเด็กคนที่อยู่ในกระจกกำลังมองมาที่ตัวปลอมของเขา บานดาน่า'ตัวปลอม'สีหน้าซีดลงอย่างชัดเจน เขามองดูที่รอบตัวของเขา มีรอยแตกเหมือนบนกระจกนั้นทุกอย่าง บานดาน่า'ตัวจริง'ยิ้มออกมาชัดเจน และขมุบขมิบปากอีกว่า
     พังส่วนกรอบเลย
     คิลเลอร์วิ่งไปหาของมีคมจากครัว อะไรซักอย่างที่แข็งแรงพอที่จะทำให้กรอบกระจกเงานั้นพังได้ลงไป เมต้าไนท์รีบวิ่งตามมา เขาเปิดดูลิ้นชักและเห็นสิ่งๆหนึ่งในนั้น
     "นี่มัน....ทำไมมีของแบบนี้อยู่ที่นี่นะ..."เมต้าไนท์หยิบขึ้นมา มันเป็นดาบที่ขัดเงาอย่างดี เหมือนเป็นของสะสมที่ไม่เก่ามากนักเท่าไหร่
     "อ๊ะ! เมต้าไนท์ นี่นาย..."คิลเลอร์หยิบมีดปังตอมา และเห็นเมต้าไนท์ถือดาบอยู่
     "พี่! มีสองอันนะ!"เมต้าไนท์ขยิบตาให้คิลเลอร์ พวกเขาสื่อสารกันรู้เรื่องว่าจะทำอะไรต่อไปแล้ว
     ฝั่งแม่ของอุ้มและบุ๊ค เธอเอาไม้กวาดมาช่วยพังกระจกอีกที กระจกนั้นยังยึดอยู่ได้เพราะมีกรอบ บุ๊คกับอุ้มได้แต่ยืนดูเพราะอุ้มนั้นเจ็บที่มือ บุ๊คก็ทำอะไรไม่เป็นเลย
     "ระวัง!!!!!!!!!"เสียงของคิลเลอร์ดังขึ้นมา พร้อมกับดาบที่เขาได้มาจากลิ้นชักเก็บของสะสม เมต้าไนท์มาทางด้านขวา คิลเลอร์เหมือนดูจะถนัดจับดาบมาก เขาวิ่งเข้าประกบกับกระจกทาง
ซ้ายและเอาดาบนั้นฟันที่กรอบด้วยความเร็วสูง อุ้มกับบุ๊คต่างทึ้งในทักษะของเขา เมต้าไนท์ก็เร็วพอๆกับคิลเลอร์ ทั้งคู่มีสัญชาติญาณของนักดาบโดยแท้จริง
     "แตกแล้ว!"เคอร์บี้บอก และยืนดูกระจกนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ บานดาน่า'ตัวจริง'ได้หลุดออกมาจากกรอบ ล้มลงไป แม่ของอุ้มและบุ๊ครีบเข้าประคอง บานดาน่า'ตัวปลอม'นั้นทำได้เพียงแค่พูดว่า
     "ชั้น...ชั้น....ชั้น...ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
     เสียงของตัวปลอมได้หายไป มีแต่เสียงของตัวจริงที่พูดขึ้นมาเบาๆว่า
     "ขอบ...ขอบคุณครับที่ช่วยผม....ครับ...."
     ..........
     "ผมขอโทษทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ! ผม...ผม....ฮือ....."บานดาน่าร้องไห้โฮออกมา เมต้าไนท์ปลอบใจเขา ส่วนชั้นก็นั่งตรงข้ามเขา ภายในร้านดอกไม้นี้ เขาอยู่คนเดียว พ่อแม่ของเขาย้ายไปทำงานที่อื่น ห่างจากที่นี่มาก แต่เพื่อไม่ให้การเรียนของเขาต้องเสียและยุ่งยาก จึงจำเป็นที่จะต้องอยู่คนเดียว โดยที่เขามาเฝ้าร้านดอกไม้ที่เป็นกิจการที่พ่อแม่ของเขาทำเมื่อก่อน
     บานดาน่ายังคงร้องไห้ต่อไป ชั้นเอะใจได้ว่ายังไม่ได้ล้างบาปให้เขา ชั้นเลยเอาวาพ์บสตาร์ให้เขาจับ ในที่สุดเขาก็กลับมาเป็นปกติ เป็นคนที่ค่อนข้างจะขี้อาย แต่สุภาพมาก
     "ผมแอบชอบเด็กผู้หญิงคนนึงครับ..."
     "ไม่ต้องเล่าอันนั้นหรอก ชั้นฟังจากตัวปลอมนายแล้วล่ะ"ชั้นพูดแทรกมา เขาเลยเงียบไประยะหนึ่ง และพูดขึ้นมาอีกว่า
     "เอ่อ...คือว่า..จะว่าอะไรมั๊ยครับถ้าผมร่วม....เอ่อ...ขอโทษครับ..."
     "ว่ามาเถอะน่า ไม่เป็นไรหรอกนะ"ชั้นจับมือของเขาเอาไว้ สีหน้าเขาดูตื่นนิดๆ แต่ก็ยิ้มบางๆให้เห็นในต่อมา
     "จะมากไปมั๊ยครับ....ถ้าผม....อยากร่วมกับพวกคุณ...."
     ร่วม?หมายความว่าไงของเขากันนะ?
     "ผม...อยากจะรับผิดชอบที่สิ่งผมทำลงไปครับ แล้วก็ผ้าโพกหัวนี่...."
     เขาเอาผ้าโพกหัวนั้นไปที่เตาแก๊ส ตั้งไฟขึ้นมา เอาผ้าวางบนกระทะใบเล็กๆ สุดท้ายเขาก็เอาแอลกอฮอร์มาราดบนผ้าให้ไฟลุกขึ้นมา
     "ทำอะไรน่ะ..."บุ๊คที่นั่งอยู่ถามขึ้นมา
     "ผม...จะเผาผ้านี่ทิ้งครับ...มันทำให้ผมต้องทำสิ่งโหดร้ายลงไป"น้ำตาเขาไหลลงข้ามแก้ม"ผมต้องเผาผ้าที่เป็นสิ่งที่เด็กผู้หญิงคนนั้นให้มาทิ้งไปครับ...เพื่อไม่ให้ยึดติดอีก...แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมมีอีกผืน"
      "เข้าใจแล้ว.."บุ๊คเบาเสียงลง หลังจากนั้นทุกคนก็เงียบลงไปซักพักใหญ่
      ทุกคนดูเหมือนเหนื่อยมาก โดยเฉพาะเมต้าไนท์กับคิลเลอร์ที่เผลอหลับปุ๋ยกันไปทั้งคู่เพราะพวกเขาใช้แรงทั้งหมดที่มีเอาดาบที่เป็นของสะสมพังกรอบกระจกไป
     ก็ดูดีนี่นาตอนพวกเขาหลับ..
     บานดาน่าหันไปอีกรอบเพื่อที่จะดับไฟ แต่เขาตกใจเพราะว่ามีดาวสีส้มอยู่ตรงกระทะ แทนที่ของผ้าผืนนั้น
     ใช่แล้ว...
     เขารอดจากความริษยาที่ตามตัวเขามาตลอดแล้ว
     ..........
     "นี่ๆ อีกไม่นานนายก็กลับแล้วนี่?"ชั้นถามเคอร์บี้ เขาอยู่มาเกือบจะสองเดือนได้แล้ว"ใกล้จะสบายแล้วนะ"
     "สบายอะไรล่ะ กลับไปก็โดนแม่ว่าเหมือนเดิมอีดน่ะสิ"เคอร์บี้กัวเราะแห้งมาให้ชั้น ชั้นที่กำลังจะไปโรงเรียนก็หัวเราะตามไปด้วย นั่นสิ มนุษย์แม่เป็นอะไรที่น่ากลัวใช้ได้ ยกเว้นว่าจะได้อะไรที่ตัวเองถูกใจนี่นา
     "บุ๊คคคค ไปกันเถอะะะ"เสียงของอุ่มดังขึ้นมาจากชั้นสอง มือของเธอยังพันผ้าพันแผลอยู่หลังจากเหตการณ์ครั้งนั้นที่ผ่านมาประมาณสองสัปดาห์ได้แล้ว เธอโวยวายใหญ่ว่าเล่นเกมไม่ได้ๆ แต่สุดท้ายก็ยังเล่นเกมที่ใช้แผ่นเซ็นเซอร์อย่าง 'ลี สปอต' ได้อยู่ดี
     "งั้นชั้นไปก่อนนะ"
     "อื้ม"
     ชั้นเดินออกมาจากร้านพร้อมกับอุ้ม เดินไปข้างทางด้วยกัน โรงเรียนของเราก็ไม่ได้ห่างจากร้านเท่าไหร่ อีกอย่างก็ได้ไปรับนนท์กับคู่กัดของเขา ทอย มาด้วย
     "อ๊ะ ทอย! ทางนี้ๆ"อุ้มเรียกเด็กหญิงคนนึงที่ดูหน้าไร้อารมณ์สิ้นเชิง เธอคือทอย เพื่อนหญิงที่อุ้มสนิทที่สุด เธอยืนอยู่กับนนท์ที่ท่าทางแข็งแรงดีแล้วทุกอย่าง เขาโบกมือไปมาอย่างไม่แคร์สายตาคนแถวนั้น พวกเรารวมตัวกัน และเดินไปโรงเรียน
     หลังเลิกเรียน ทอยก็เล่นตามมุขเดิมของเธอที่ใช้ประจำ ดูไพ่ทาโรต์
     "ชั้นจะไปร้านพวกนายนะ อยากเล่นกับเด็กที่มาร้านนายจัง"
     "ชั้นก็จะไปด้วย ชั้นสั่งขนมปังรอเลยได้ป่าว?"
     พวกเขาเดินตามชั้นกลับมาที่ร้านขนมปัง ชั้นพาพวกเขาขึ้นไปชั้นสอง เคอร์บี้ เมต้าไนท์ กับคิลเลอร์นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นพอดี
     "อ๊ะ! เคอร์บี้นี่นา หวัดดี! แล้วสองคนนั้นที่แตกตัวแปลกๆนั่นละใคร? คอสเพลย์เหรอ..."นนท์มอง"แต่ว่าชั้นชอบนะ!! ยินดีที่ได้รู้จัก! ชั้นนนท์ ยัยหน้าจืดจางนี่ทอยเอง!"
     ทอยนั่งลงข้างๆเมต้าไนท์กับคิลเลอร์ บอกให้พวกเขาเลือกคนละใบ ทีละคน ครั้งแรกพวกเขาไม่เข้าใจ แต่ก็ทำตามที่บอก
     "ถ้าทอยอยากรู้จักใคร เธอพูดไม่เก่งน่ะ เลยเข้าหาด้วยไพ่ทาโรต์ที่แหล่ะ" อุ้มบอกพวกเขา
     "อนาคตดีนะเนี่ย ผ่านลำบากมามาก ช่วยทนอีกนิด ไม่นานก็ดีเองแหล่ะ" เธอบอกพวกเขาแค่นี้ และหันไปทางคนอื่น ดูให้หมด ทุกคนต่างดี เหลือแค่เคอร์บี้เท่านั้น
     เคอร์บี้เลือกใบตรงกลาง เขาตื่นเต้นมากที่จะให้เพื่อนใหม่ทำนายเรื่องแบบนี้ให้
     "ไม่นะ..."ทอยทำไพ่ใบที่เคอร์บี้เลือกมาตก
     "เอ๋"นนท์หยิบมาดู"หมายความว่าไง?"
     "แย่สุดๆ แย่สุดๆ"เธอส่ายหัวไปมา ชั้นก็พลอยใจหล่นไปตามเหมือนกับเคอร์บี้"อนาคตเธอนี่มัน....จะว่าไงดี มันแทบจะมองไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง ชั้นบอกได้แค่ว่า ถ้าเธอเลือกผิด ทุกอย่างมันจะจบลงและพัง ถ้าเลือกสิ่งที่ยังไม่สมควร มันจะส่งผลให้ทุกอย่างย้อนกลับมา แต่ถ้าเธอเลือกถูก จะเจอเรื่องเลวร้ายต่อไปอีก...ชะตาเธอถูกกำหนดไว้กับคนๆหนึ่งที่เธอมีสายสัมพันธ์ลับๆโดยที่เธอไม่รู้มาก่อนเมื่อประมาณห้าปีที่แล้ว คนๆนั้นเป็นคนๆเดียวที่สามารถเปลี่ยนชีวิตเธอได้ตลอดกาล...แต...แต่ว่า เธอเชื่อชั้นไม่ค่อยได้หรอกนะ ชั้นยังแค่ฝึกดูน่ะ..."
     แค่ฝึกดู แต่อธิบายแบบนี้มา เคอร์บี้หน้าเสียเลยแหะ ชั้นเองก็ยังตกใจ เหมือนว่าชีวิตของเขามันถูกกำหนดให้เจอเรื่องร้ายๆกับเขาช่วงนี้เหรอ?
     เหมือนพระเจ้าจะแกล้งเขายังไงยังงั้นเลย....
     ..........
     ---ระบบ----พร้อม----แล้ว----
     ----เริ่มเดินเครื่อง-----
     [เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ ชั้นรู้ว่าอยากเจอคนที่ให้ความรู้สึกทั้งหกแก่เธอมาแล้ว]
     --ทน---ไม่---ไหว
     [ให้ชั้นจัดการระบบโต้ตอบให้สมบูรณ์ก่อนสิ แล้วก็ชั้นยังไม่ได้ใส่ระบบที่คุมทุกอย่างบนโลกได้เลย]
     --จริงด้วย---อีก---กี่----วัน---
     [ประมาณเดือนนึง แล้วชั้นจะเชื้อเชิญเขามาเองแหล่ะ....เอไอที่แกร่งที่สุด ฉลาดที่สุด และเสมือนเป็นเทพเจ้าของชั้น...ดีพเอ็นด์...]
     --ชื่อของ----ชั้นคือ----ดีพเอ็นด์ซิสเต็ม----กรุณา---เรียกชื่อนี้
    [เรียกเท่านั้นแหล่ะ พอแล้ว]
    ----เข้าใจแล้ว----