Translate

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

kirby's story of star ep 4 : ตำนานบาปทั้งห้ากับความจริงจากปากเมต้าไนท์

        "เธอน่ะ....กระผมคิดว่าเมื่อห้าสิบปีก่อน กระผมเคยพบกับเด็กคล้ายๆเธอด้วย"
        "เคอร์บี้ ไม่เป็นไร ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก ฉันหนีออกมาแล้วล่ะ"
        ..........
        ที่นี่มัน...
        ทำไมคุ้นๆจัง...
        ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันอยู่ที่ไหนซักแห่งบนโลกนี้ บรรยากาศรอบๆคล้ายโรงพยาบาลร้าง ฉันเลยเดินออกไปดู เดินไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมาย ในที่สุดฉันก็เจอประตูบานหนึ่ง
        ฉันจึงผลักออกไป
        รอยยิ้ม...
        รอยยิ้มของเด็กคนนึงที่แสนจะไร้เดียงสา
        รอยยิ้มของเด็กคนนั้นกำลังมองมาทางฉัน
        "เจ้าหนู...มาทำอะไรที่นี่เหรอ แล้วพ่อแม่ล่ะ?"ฉันถามเด็กคนนั้นไป แล้วหันหาพ่อแม่ของเขารอบๆตัว"อย่าบอกนะ ว่ามาคนเดียวน่ะ"
        เด็กคนนั้นผยักหน้า เขาเป็นชาวแคปปี้เหมือนกัน แถมตัวก็ยังสีเดียวกันอีกด้วย
        "น้องๆ จะไปไหนน่ะ"
        ฉันพูดกับเด็กคนนั้นอีกครั้ง เขากำลังเปิดประตูอีกบานออกไป เขาเรียกฉันด้วย ฉันจึงตามเขาไป
        สงสัยพาฉันออกไปมั๊ง...?
        [นา*น่ะ...*า*...]
        ฉันได้ยินเสียงๆหนึ่งก่อนที่จะเดินออกไปตามเด็กคนนั้น และทุกอย่างก็มืดลงไป มืดลงไป....
        ...........
        "เคอร์บี้..เคอร์บี้!"อุ้มเขย่าตัวเคอร์บี้"เหม่ออะไรอยู่ ตำรวจสากลเต็มร้านเราเลยนะ!"
        น้ำเสียงของอุ้มดูตื่นเต้นปนดีใจเล็กน้อย บรรยากาศภายในร้านตอนนี้เต็มไปด้วยตำรวจสากล มีทั้งไทย อเมริกา บลาซิล ญี่ปุ่น
        "อุ้ม เธอพูดอังกฤษได้ไม่ใช่เหรอ? ถามให้หน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น"บุ๊คเรียกอุ้มในขณะที่เขากำลังติดชงักกับคนอเมริกาตัวใหญ่เท่ายักษ์
        "ใช้ไม่ได้น้า"อุ้มส่ายหัว และหันมาบอกเคอร์บี้ที่เพิ่งได้สติกลับมาอีกครั้ง"เมต้าไนท์กับพ่อบ้านคนนั้น แล้วก็ลูกคุณหนูดีดีดีอะไรนั่นขึ้นรถรอแล้วล่ะ เห็นว่าจะต้องให้ปากคำอะไรซักอย่างที่สำนักงานเขา นายก็รีบขึ้นรถไปด้วยซะสิ"
        ".อะ...อื้อ..."เคอร์บี้ยังคงคาใจกับสิ่งเขาเห็นเมื่อกี๊ มันคืออะไรกันแน่นะ
        ..........
        ณ สำนักงานตำรวจสากลของจังหวัด
        "ok thank for come with me. you can stay here for wait people in around 2 hour"
        ตำรวจสากลชาวอเมริกาพูดกับเมต้าไนท์
        "i will thank to you too. but..why we are here?"เมต้าไนท์ตอบเป็นภาษาอังกฤษ เขาตอบได้คล่องมากเลยทีเดียว
        "..you will know from fumu later.."
        "...fumu...?"เมต้าไนท์ทวนคำตอบ แต่ตำรวจคนนั้นก็เดินจากไปแล้ว
        "เมต้าไนท์...มีอะไรเหรอ"เคอร์บี้ถามเมต้าไนท์ เขาฟังภาษาอังกฤษพอออกแต่ก็ฟังไม่ทันว่าเขาพูดอะไร
        "ตำรวจคนนั้นบอกว่าให้เรารอที่ห้องนี้ประมาณ 2 ชั่วโมงน่ะ แล้วก็เรื่องทุกอย่างจะรู้จากคนที่ชื่อว่า ฟูมุ ใครกันนะ"
        "กระผมว่า เราเข้าไปในห้องกันก่อนเถอะครับ ยืนแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ"พ่อบ้านเอสโซ่บอกให้พวกเคอร์บี้เข้าไปในห้อง แต่เมื่อเข้าไปแล้ว พวกเขาก็เจอหญิงสาวคนหนึ่ง
        ผมสีทองยาวสลวยและมัดโพนี่เทล
        เสื้อสีเขียวอ่อน กระโปรงยาวสีดำ
        รองเท้าสีเทา ถุงเท้าสีขาว
        เป็นการแต่งตัวที่ดูไม่น่าจะเข้ากันกับหญิงคนอื่น แต่กลับทำให้เธอคนนี้ดูสวยมากเลยทีเดียว
        "ฉันพูดไทยได้ ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงฉันจะเป็นคนญี่ปุ่น แต่ก็อยู่ไทยมากเกือบจะสิบปีแล้วล่ะ"
        นั่นเป็นคำพูดแรกที่เธอพูดออกมา
        "ฉันชื่อว่า ฟูมุ เป็นตำรวจสากล ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับพวกเธอหน่อยนะ"
        "ผมชื่อเคอร์บี้ ส่วนนี่ก็..."
        "เมต้าไนท์ใช่มั๊ย"
        น่าเหลือเชื่อที่เธอรู้จักชื่อของเมต้าไนท์ แต่เขาทำท่าทีเหมือนมีบางอย่างขัดๆ
        "แสดงว่าคุณรู้แล้วใช่มั๊ยครับ"เมต้าไนท์ถามหญิงสาว"ว่าผมเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มดาร์กเมดเทอร์น่ะ"
        "ฉันรู้ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาแล้ว ดวงตาของเธอมันมีความมืดปนอยู่ด้วยน่ะสิ แล้วพี่ชายของเธอก็อยู่ที่นี่ด้วยล่ะมั๊ง"
        "ถูกจับกุมอยู่เหรอ?"เมต้าไนท์พูดต่อ"งั้นผมก็ต้องถูกจับด้วยสิ เอาเลย ยังไงผมก็เป็นสมาชิกกลุ่มนั้นอยู่ดี"
        "พี่เธอไม่ได้ถูกจับหรอกนะ แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นสายให้ทางเรา"ฟูมุตอบกลับไป"เธอไม่ถูกจับด้วยแน่นอน เพราะเธอไม่ได้มีความผิดอะไร เอาล่ะ ทุกคนเรามาเข้าประเด็นดีกว่านะ"
        "เดี๋ยวก่อนครับ...ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ"คุณหนูดีดีดีที่กำลังงุนงงกับเหตุการณ์ยกมือขึ้นถาม"คุณพ่อบ้านครับ ทำไม...อย่าบอกนะว่าผม.....ไม่นะ"
        เคอร์บี้หันไปมองดีดีดี เขาเปลี่ยนไปทันที นิสัยพื้นฐานของเขาคงจะไม่เหมือนเมื่อกี๊แน่ๆ เพราะเขาดูไม่ใช่คนคนเดียวกัน
        "เธอน่ะ ท่าทางจะกำลังงงกับเรื่องนี้อยู่สินะ"ฟูมุถามเคอร์บี้"ฉันจะเล่าให้ฟังเอง รวมถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อนด้วย เห็นว่าคุณเองก็เคยเจอไม่ใช่เหรอ คุณเอสโซ่"
        "ครับ คุณหนู ตัวกระผมเมื่อก่อนเคยเป็นตำรวจสากล และตอนที่ออกมา หนูฟูมุเขาก็เข้ามาแทนกระผมขอรับ"พ่อบ้านตอบ พลางดันแว่นขึ้น
        "เรื่องมันเป็นมายังไงครับ?"เคอร์บี้ถามต่อไป เมต้าไนท์เดินเข้ามาใกล้เคอร์บี้
        "ฟังก่อนเถอะน่า"เมต้าไนท์บอกเคอร์บี้"แล้วฉัน..มีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกนายด้วย"
        ..........
        เมื่อนาน...นานมากแล้ว
        มนุษยชาติเคยเชื่อมั่นในตัวของเทพเจ้าที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา ดีพเอ็นด์
        ดีพเอ็นด์เป็นเทพเจ้าที่คอยขจัดปัดเป่าทุกข์ร้ายที่เหล่ามนุษย์ต้องประสบ
        แต่ซึ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น....
        ดีพเอ็นด์กลับมีสมองที่ก้าวหน้ากว่าเหล่ามนุษย์มากกว่าที่คิด ทำให้เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
        ดีพเอ็นด์เริ่มส่งเหล่ามนุษย์ให้ไปอยู่ในดินแดนแห่งความสุขทีละคน...สองคน โดยที่มนุษย์เหล่านั้นจะไม่มีวันกลับมาได้อีก...
        จนเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว เหล่ามนุษย์ที่เคยสิ้นหวัง ก็ได้มีความหวังกลับมาจากสุดแดนที่ดีพเอ็นด์สร้างขึ้นอีกครั้ง ก็เพราะมีเด็กชาวแคปปี้คนหนึ่งได้ยืนกรานขึ้นเพื่อต่อต้านดีพเอ็นด์
        เขาพยายามสู้ แต่สุดท้ายทั้งเขาและดีพเอ็นด์ก็ได้แตกสลายหายไป ทุกอย่างจึงเป็นเหมือนฝันกลางวันในบ่ายวันหนึ่ง
        มีไม่กี่คนที่จะจำเรื่องราวเหล่านั้นได้
        แต่ทว่ากลับมีเรื่องราวต่อจากนั้นอีก...
        ก่อนที่ดีพเอ็นด์จะสลายไป ดีพเอ็นด์ได้สร้างสิ่งสุดท้ายขึ้นมา นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า บาปทั้งห้า..
        บาปเหล่านั้นถูกให้จำกัดอยู่ในรูปสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ได้ว่ากันว่า สิ่งเหล่านั้นได้แก่ ช้อนแห่งความตะกละ ผ้าแห่งความริษยา ดาบคู่แห่งอัตตา(การมีตัวตน)และความอาฆาต สุดท้ายก็คือนาฬิกาทรายแห่งความเดียวดาย
        ..........
        "เอ๋...เหมือนเป็นนิทานเลย"เคอร์บี้พูด
        "เรื่องพวกนี้ถูกคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นนิทานก่อนนอน แต่มันกลับเป็นเรื่องจริงน่ะ"ฟูมุอธิบาย"ฉันคาดว่าเมต้าไนท์กับพี่ของเขาก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดี"
        "จริงเหรอ"เคอร์บี้หันมาทางเมต้าไนท์
        "อือ..แต่ว่าทางกลุ่มที่ฉันเคยอยู่ด้วย..บอกว่าเด็กคนนั้นเป็นสิ่งที่ต้องกำจัด เพราะเป็นคนที่ทำลายโลกที่ดีพเอ็นด์สร้างขึ้นมาน่ะสิ"เมต้าไนท์บอก"แต่ว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องของสิ่งของที่เป็นรูปของบาปเลย..."
        "กระผมรู้มาว่าทางบ้านของคุณหนูมีช้อนแห่งความตะกละครอบครองเอาไว้อยู่ กระผมเลยพยายามไม่ให้คุณหนูได้เข้าใกล้ช้อนนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่ทันเพราะคนใช้คนอื่นคิดว่ามันเป็นช้อนธรรมดา พอเอามาให้คุณหนูใช้ตักขนมหวาน คุณหนูเลยถูกเจ้านั่นเข้าสิง...สิ่งของพวกนี้มักจะมีปฏิกิริยากับบุคคลที่มันคิดว่าเหมาะสม ไม่คิดว่าจะเป็นคุณหนูดีดีดี"พ่อบ้านบอก"แต่พอรู้อีกทีว่า เธอคือคนที่สามารถลบล้สงบาปได้ กระผมก็สบายใจขึ้นมาก เพราะสิ่งของพวกนั้นเมื่อเจอกับดาวที่เธอถืออยู่กับมือ...วาพ์บสตาร์ สิ่งของพวกนั้นจะคืนรูปกลับไปเป็นอากาศเหมือนเดิม และบาปที่สิ่งอยู่ในตัวของผู้ครอบครองก็จะหลุดหายไปด้วย..."
         "แต่...แต่ว่า...."เคอร์บี้มองที่ดาวนั่น"ทำไมต้องเป็นผม ทำไมถึงไม่ใช่คนอื่นที่ไม่ใช่ผม...ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรขึ้นมา ผมจะรับผิดชอบยังไงล่ะ และผมก็คงไม่ใช่คนที่ล้างบาปอะไรนั่นได้หรอก ต้องมีอะไรที่พวกคุณเข้าใจผิดกันแน่ๆ"
         "เคอร์บี้..จากนี้ไป นายต้องระวังตัวนะ..เพราะวาพ์บสตาร์นี่จะเป็นสิ่งที่พานายเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของฉันด้วยน่ะสิ เรื่องที่ไม่อยากให้ใครมายุ่งด้วย"เมต้าไนท์บอกเคอร์บี้
         "ทำไมล่ะ"
         "คือว่า เรื่องมันเป็นแบบนี้...เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนน่ะ..."
         ............
         วันนั้นเป็นวันที่ฉันนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารที่เหล่าพวกคนชั่วร้ายนั่งคุยเรื่องคนที่สามารถล้างบาปได้กำลังจะปรากฏตัวออกมา แล้วมีคนนึง เขาอายุเท่าฉันนี่แหล่ะ ก็พูดขึ้นมาว่า
         "เราคาดการว่า บุคคลนี้จะเป็นอันตรายต่อองค์กรของเราเป็นได้ ฉะนั้นต้องรีบกำจัดให้เร็วที่สุด"
         ฉัน ซึ่งเป็นคนที่เกลียดการต้องทำอะไรที่เลวร้ายก็ได้แต่นั่งนิ่ง เพราะฉันกลัวว่า จะต้องไปฆ่าใครซักคน ฉัน..ฉันเกลียดมากที่ต้องเห็นคนที่บริสุทธ์ถูกฆ่าตาย
         ฉันกับพี่เลยได้นั่งคุยกันเรื่องนี้ตอนที่กลุ่มคนที่สนับสนุนการฆ่าคนที่ล้างบาปได้กำลังเฮฮา ใช่ มีแค่ฉันกับพี่แค่สองคน
        "เมต้าไนท์ เอางี้น่ะ น้องน่ะ รีบหนีไปก่อน น้องต้องรีบตามหาคนที่พวกนั้นจ้องจะเอาชีวิต ส่วนพี่จะตามไปทีหลังเพื่อพวกมันจะได้คิดว่าเราต้องไปด้วยกัน น้องน่ะช่วยคนนั้นเอาไว้ให้ได้นะ"
        "แล้วพี่ล่ะ พี่จะหนีไปยังไง ไปคนละทางมันจะดีเหรอ"
        "ดีสิ ดีแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะ"
        หลังจากนั้น พี่ก็ผลักฉันตกหน้าต่างแถวนั้นลงไป โชคดีที่มันเป็นทะเล แต่ด้วยที่ฉันว่ายน้ำไม่เป็น ฉันจึงรีบหาอะไรเกาะ สิ่งที่ฉันเกาะได้เป็นท่อนไม้ที่ลอยมาจากไหนซักที่ แล้วฉันก็ลอยมาติดแถวชายทะเลตอนกลางดึก ฉันจึงเดินอย่างอ่อนแรง เดินไปเรื่อยๆจนฉันไม่เหลือแรงแล้ว ฉันเลยมานั่งเอาอะไรมาคลุมตัวข้างร้านขนมปังที่นายอยู่นั่นแหล่ะ ไม่นึกว่าพวกนายจะมาเจอฉัน
        ..........
        "แล้วฉันก็คิดว่าฉันจะตายอยู่แล้วดวยซ้ำก่อนที่นายจะมาเจอ อีกอย่างที่ฉันไม่อยากเชื่อคือ นายจะเป็นคนที่สามารถล้างบาปพวกนั้นได้ด้วย"เมต้าไนท์บอก
        "แต่ว่า...ยังไงฉัน..."
        "เอ่อ...."
        คุณหนูดีดีดีเดินเข้ามาทางเคอร์บี้ และโค้งให้
        "ต้องขอบคุณที่คุณช่วยผมเอาไว้นะครับ ไม่งั้น..ไม่งั้น..."
        คุณหนูดีดีดีร้องไห้ออกมา น้ำตาของเขาไหลลงอาบบนแก้มของเขาเรื่อยๆ
        "...ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าเรียกฉันว่าเคอร์บี้ก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้นคุณหรอกนะ"
        เคอร์บี้ปลอบคุณหนูดีดีดี
        "จริงเหรอ..ต่อไปนี้เรียกฉันว่า ดีดีดี ได้มั๊ย ไม่ต้องเรียกคุณหนูหรอกนะ"
        รอยยิ้มเริ่มมาประทับตรงหน้าดีดีดี
        "จะว่าไป จะเอายังไงล่ะ เคอร์บี้"เสียงของฟูมุดังขึ้นมาอีกครั้ง"เธอน่ะ จะมาอยู่กับเราก่อนมั๊ย เพื่อความปลอดภัย"
        "อืม..."เคอร์บี้ใช้เวลาคิด"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวพวกคุณลำบาก ยังไงชีวิตผมก็ไม่มีอะไรอยู่แล้วนี่"
        "แล้วเธอล่ะ เมต้าไนท์"ฟูมุหันมาทางเมต้าไนท์"จะอยู่กับพี่เธอมั๊ยล่ะ"
        "ผมว่าไม่หรอกครับ พี่สั่งให้ผมมาตามหาคนที่สามารถล้างบาปได้ แล้วเขาก็อยู่ตรงนี้ ยังไงผมก็อยากปกป้องเขาครับ"เมต้าไนท์ตอบตามตรง และเขาก็จับมือเคอร์บี้"เคอร์บี้ ต่อไปนี้ฉันจะปกป้องนายเองนะ"
        "อ..อื้ม"เคอร์บี้กัดฟันตอบ
        ..........
        เอายังงั้นเหรอ..แน่ใจนะ....
        ..........
        "!"เคอร์บี้รีบหันหน้าไปมา
        "มีอะไรเหรอ"เมต้าไนท์ถาม
        เคอร์บี้หันหน้าไปมาเพื่อหาว่าตนตอของเสียงนั้นมาจากไหน
        "ได้ยินอะไรมั๊ยเมื่อกี๊"
        "อะไรเหรอขอรับ กระผมถึงจะแก่แต่หูยังดี ไม่ได้ยินอะไรเลยนะขอรับ"พ่อบ้านตอบ
        "แต่ว่า....ช่างมันเถอะ คงหูแว่วมั๊ง"
        ...........
        หลังจากที่ฉันอยู่ที่นั้นประมาณเกือบทั้งวันได้ ฉันกับเมต้าไนท์ก็กลับมาในสภาพที่เหนื่อยเพราะให้การกับตำรวจสากลเรื่องนี้หมด เมต้าไนท์ไม่ได้เจอกันพี่ตัวเอง ทีแรกเขาก็ดูเศร้าๆ แต่ก็ดีแล้วล่ะ
        แต่ฉันก็ยังคงสงสัยกับสิ่งที่ฉันเห็น มันเป็นภาพลวงตา รึว่าฉันแค่ฝันกลางวันไปกันนะ เสียงที่ฉันได้ยินตอนนั้นด้วย เด็กคนที่เห็นในภาพ...โรงพยาบาลร้าง...เสียงที่ได้ยิน...มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่ๆ
        แต่ก่อนน่านั้นฉันคงต้องขอเวลางีบก่อนล่ะนะ เฮ้อ
        ..........
        [----ไลบ์บลารี่ชื่อว่า นอร์มอล ไม่สามารถค้นหาพบ----]
        [----เริ่มทำการค้นหาจากโลกความจริง----]
        [----ค้นพบ 1 รายการ----]
        [----เตรียมการ----]
        [----สู่โลกความจริง----1%----]

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

kirby's story of star ep 3 : ลูกคุณหนูผู้สูงส่งกับบาปที่ติดตัว

      "อ๊าฮ่าฮ่าฮ่า! พวกนายก็แค่คนชนชั้นรากหญ้าเท่านั้นแหล่ะน่า!"
      "ว่าไงนะ เจ้าลูกคุณหนูอวดดี!"
      "ก็จริงไม่ใช่เหรอ รึว่าจะเถียง?"
      "...ฮึ่ม..."
      ..........
      วันนี้เป็นวันที่ห้าของการฝึกงาน ณ ร้านขนมปังแห่งนี้
      จะว่ายังไงดีล่ะ?โชคดีรึเปล่า? เพราะตั้งแต่เมต้าไนท์มาหลบภัยที่นี่ เขาก็พยายามช่วยงานที่ร้านเพื่อแลกกับการพักที่นี่ชั่วคราว เจ้าของร้านให้เขาไปทำงานในครัวซึ่งเป็นที่มิดชิดและไม่อยากให้ออกมาข้างนอกก่อนช่วงหนึ่งทุ่ม ทำให้เป็สาเหตุที่ฉันต้องมาอยู่ในครัวด้วยเพื่อให้เขารู้สึกสบายใจ
      เมต้าไนท์เป็นคนค่อนข้างขี้ระแวงพอสมควรแต่เขาก็ตกใจง่ายมากๆด้วย เมื่อวานเขาเผลอเหยียมตุ๊กตาเป็ดมีเสียงแล้วเขาก็สดุ้งโหยง พวกบุ๊คหัวเราะใหญ่ ดูท่าแล้วเขาก็น่าจะเป๋อๆ บางทีก็น่าจะมากกว่าฉันด้วยแฮะ
      พอเข้ามานั่งในครัวฉันก็สบายขึ้นมากเพราะไม่ต้องมายืนยื่นกล่องให้ลูกค้าที่เรื่องมาก จะเอานู่นนี่นั่น ทำไมไม่หยิบเองล่ะครับ? ฉันถามอย่างเดียว ก็ยังดีที่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็น
      งานภายในครัวส่วนใหญ่จะเป็นการอบขนมปัง และเข็นรถออกไป ปกติงานนี้สบายมากสำหรับฉัน แต่เมื่อเมต้าไนท์มาช่วยด้วยแล้ว ก็ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่
      "อันนี้..."เมต้าไนท์ถามฉันขึ้นมาในตอนที่กำลังนั่งกินข้าวปั้นสามเหลี่ยมของเมื่อวานที่พวกบุ๊คซื้อมา แล้วเหลือสองก้อนพอดี
      "ข้าวปั้นสามเหลี่ยมน่ะ อร่อยนะ"ฉันตอบเขาไปและเอามันเข้าปาก
      "เหรอ.."เขาตอบและเอาข้าวเข้าปากที่อยู่ใต้หน้ากากของเขา ปากของเขาค่อยๆเคี้ยวและกลืนมันลงไป
      "อ๊าฮ่าฮ่าฮ่า! พวกนายก็แค่คนชนชั้นรากหญ้าเท่านั้นแหล่ะน่า!"
      เอ๋? เกิดอะไรขึ้นข้างนอกน่ะ เสียงไม่คุ้นหูเลยแฮะ
      "ว่าไงนะ เจ้าลูกคุณหนูอวดดี!"
      คราวนี้เป็นเสียงของอุ้มบ้าง เสียงเธอท่าทางจะหงุดหงิดมาก
      "ก็จริงไม่ใช่เหรอ รึว่าจะเถียง?"
      เสียงที่พูดเมื่อกี๊ดังขึ้นมาอีกรอบ สงสัยคงต้องไปดูซะแล้วสิ
      ..........
 
       "ฉันอยากจะกินขนมปังพวกนี้ให้หมดเลย ฉันมีเงินมากกว่าพวกนายรวมกันสิบคน..ไม่สิ ร้อยคนเลยด้วยซ้ำ"เสียงเด็กชายชาวเพนกิน่าดังขึ้นมาจากกลางร้าน"อีกอย่าง พวกนายที่นั่งกันในร้านน่ะ ออกไปซะ ฉันคือลูกคุณหนูแห่งตระกูลนักชิม ฉันควรจะได้กินอะไรซักหน่อยสิ"
      "คือว่า คุณหนูครับ...กระผมว่าถ้าทำแบบนี้..."
      "เงียบไปเลย เจ้าพ่อบ้านงี่เง่า! แก่แล้วยังกล้าเถียงผู้สูงส่งเหรอ"เด็กชายคนนั้นยังคงพูดอวดอ้างตัวเองต่อไป"แค่มีเงิน ฉันก็กินทุกอย่างบนโลกนี้ได้แล้ว เอ้า!เอาอะไรมาให้ฉันกินเร็วๆสิ หิวจะแย่อยู่แล้ว!"
      "ใจเย็นๆหน่อยสิ! ก็รู้หรอกนะว่าหิวน่ะ!"อุ้มเถียงลูกคุณหนูได้อย่างดุเดือด"ไม่งั้นก็ขอเชิญให้คุณซื้อออกไปกินที่บ้านเลยซิคะ! ง่ายดีกว่า!"
      "ร้านนี้ถูกตัดคะแนนเรื่องการต้อนรับลูกค้านะ ดีแล้วที่ฉันไม่สั่งปิดร้านไปเลย"เด็กชายยังคงพูดต่อไป"เค้กสตรอเบอร์รี่อันนี้หวานเกินไปนิด แต่ก็ใช้ได้ มีอย่างอื่นอีกมั๊ย?"
      "เอ่อ...ร้านเรายังมีขนมปังอีกหลายแบบนะครับ คุณหนูดีดีดี มีทั้งขนมปังไส้เมลอน โดรายากิที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เค้กชาเขียว คุ๊กกี้ช็อคโกแล็ต..."บุ๊คไล่ชื่อเมนูของร้านจนหมด คุณหนูคนนั้นชื่อดีดีดีสินะ
      "อืมมม เอามาให้หมดเลย ฉันอยากจะชิมอีกเยอะ แต่ถ้าจะดี นายเอาความฝัน ความหวัง กับความปรารถนาของนายมาให้ฉันชิมด้วยก็จะดีมากเลย...."
      คุณหนูผู้นั้นลดเสียงลงช่วงท้ายๆ แต่ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอึ้ง สายตาของคุณหนูเปลี่ยนไป และเดินเข้าไปหาบุ๊ค
      "จานเรียกน้ำย่อยวันนี้....ความฝันที่อยากจะเป็นเชพชื่อดัง....อร่อยไม่ใช่น้อยเลยแห๊ะ..."
      "คุณหนู!!! คุณหนูตั้งสติไว้ก่อนครับ!!!"เสียงพ่อบ้านดังขึ้นและเดินเข้าไปรั้งเอาไว้ สุดท้ายก็รั้งไม่อยู่ คุณหนูผลักเขาออกไปทางเคอร์บี้ที่เพิ่งออกมาพอดี
      "อ๊ะ! เป็นอะไรมั๊ยครับ"เคอร์บี้ช่วยประคองพ่อบ้านวัยชราขึ้นมายืนได้ แม้ว่าตัวเขาก็เล็กกว่าก็ตาม
      "จานหลัก....ความปรารถนาของเธอที่เธออยากจะเป็นเกมเมอร์ชื่อดัง.....ขมขื่นปนความหวานนุ่มลิ้น...."คุณหนูดีดีดีหันมาทางอุ้ม สีหน้าเธอซีดไปทันที
      "อืม....แต่จานที่เหมาะกับจานหลักที่สุด....."
      คุณหนูหันไปทางเคอร์บี้บ้าง เคอร์บี้ซึ่งยังไม่รู้เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ได้สดุ้ง และพูดกับเขา
      "..ปะ...เป็นอะไรไปน่ะ!"
      "คุณหนู...เขาโดนวิญญาณร้ายที่เรียกว่า บาปแห่งความตะกละ เข้าสิงน่ะครับ"เสียงพ่อบ้านดังขึ้นเบาๆเพื่อตอบเคอร์บี้
      "เอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"ทุกคนหันมาทางพ่อบ้านชราคนนั้น
      "ฮึ เจ้าพ่อบ้านแก่ๆน่ะ แกไร้ประโยชน์มากนะ...หาของกินให้ฉันไม่ได้อีก....ไม่ได้เรื่อง...."คุณหนูที่พ่อบ้านชราอ้างว่าโดนวิญญาณ...ผีเข้าสิงพูดกับพ่อบ้าน"แต่ยังไง ชาวแคปปี้คนนี้มีอะไรที่ไม่เหมือนใครเลยนะ...เป็นพรสวรรค์ที่ไม่น่าจะมีได้เลย...."
      ..........
      พรสวรรค์ที่ไม่น่าจะมีได้? ทำไมล่ะ?
      ..........
      "สงสัยล่ะสิ...ก่อนหน้าที่ฉันจะตอบ...ฉันคงต้องขอชิมทุกสิ่งที่นายมีก่อนละนะ ฮ่าฮ่าฮ่าาาาาาาาาาาา"คุณหนูผู้ตระกะผู้นั้นได้วิ่งเข้าหาเคอร์บี้ เคอร์บี้จึงรีบวิ่งหนีทันที
      "ฉันว่าคงต้องจับส่งโรงบาลบ้าอ่ะนะ คุณหนูคนนี้--"
      "ยังจะมาพูดอะไรแบบนี้ตอนนี้อีกเหรอ! ไปช่วยเคอร์บี้ก่อนเถอะ!"บุ๊ครีบขัดคออุ้มทันที
      และหลังจากนั้นก็มีแสงสว่างจ้าแว๊บขึ้นมาจากมือของเคอร์บี้
      ..........
      อะไรน่ะ?
      ทำไมมันถึงมาอยู่บนมือฉันได้?
      มันคืออะไรน่ะ?
      ช่างก่อนเถอะ แต่อย่างน้อยมันก็พอให้หยุดเจ้าลูกคุณหนูคนนั้นได้ละกัน ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ฉันยื่นเจ้าสิ่งนั้นออกไปทางคุณหนู และพูดออกมาว่า
      'สิ่งที่นายทำน่ะ มันไม่ได้เรียกว่าสิ่งที่ถูกต้องหรอกนะ แต่ว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่นายกำลังลุ่มหลง มันเป็นสิ่งที่นายได้สร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่เพราะวิญญาณร้ายอะไรนั่นหรอก ลืมตาขึ้นมามองความจริงซักทีสิ!'
     ฉันพูดคำอะไรที่เหมือนการ์ตูนตอนเช้าได้ไงเนี่ย?!? แต่ทำไมเหมือนฉันเป็นพระเอกการ์ตูนไปเลยนะเนี่ยยยย ฮ่าฮ่า
     ..........
     "เคอร์บี้..."เสียงเบาๆของเมต้าไนท์ดังขึ้น"รึว่า...."
     "นั่นอะไรน่ะ! ยังกับนารูโตะตอนใช้กระสุนวงจักรเลย ซัดไปสิ เคอร์บี้! วู้!"เสียงอุ้มดังขึ้นเหมือนเชียร์ให้จัดการ
     "โอ๊ะ...นั่นมัน...."เสียงพ่อบ้านพูดขึ้น เหมือนเขาจะรู้อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้
     "เมต้าไนท์..."บุ๊คเห็นเมต้าไนท์ที่เดินออกมาจากหลังครัว"ทำไม..."
     "นั่นมัน...."เสียงของพ่อบ้านดังขึ้นอีกรอบ เขาขยับแว่นขึ้น
     "ลืมตาขึ้นซะสิ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"เคอร์บี้ตะโกนออกมาดังสุดเสียง และเหวี่ยงสิ่งที่อยู่ในมือของเขาออกไป
      "...ดาว? ไม่ใช่กระสุนวงจักรเหรอ โด่ว"อุ้มยังคงบ่น
      "มันใช่เวลาคิดถึงการ์ตูนมั๊ยเนี่ย!"บุ๊คพูดให้อุ้ม
      และทุกอย่างรอบๆตัวพวกเขาก็สว่างจ้า
      ค่อยๆจางลง
      จางลง
      จนกลับมาปกติ
      "...นี่ฉัน...ทำอะไรลงไปกันนะ...."เคอร์บี้มองมือตัวเอง เขากำลังถือสิ่งที่คล้ายดาวอยู่ในมือ สีของมันออกเหลืองนวลตา
      "ไม่อยากจะเชื่อเลย..นั่นมัน วาพ์บสตาร์!"พ่อบ้านกับเมต้าไนท์พูดพร้อมกัน ทำให้พวกเขามองหน้ากัน
      "งั้นเธอ..คงมาจาก...."เสียงพ่อบ้านเบาลง
      "ถ้าพูดถึงสิ่งนี้...แสดงคุณก็ต้องรู้แล้วสิว่าผมคือใคร..."เมต้าไนท์พูดด้วยน้ำเสียงเบาเหมือนกัน
      "เดี๋ยวๆ เรื่องนี้มันอะไรกันน่ะ..?"เคอร์บี้ทำสีหน้างุนงง เขาเห็นคุณหนูคนนั้นล้มอยู่กับพื้น
      "พรสวรรค์ที่ไม่น่าจะมีได้..."พ่อบ้านพูด
      "กับวาพ์บสตาร์ที่นายถืออยู่..."เมต้าไนท์พูดต่อ
      "นาย/เธอเป็นคนที่สามารถชำละล้างบาปทั้งห้าได้น่ะสิ...."พ่อบ้านชรากับเมต้าไนท์พูดพร้อมกัน
      "เอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"เคอร์บี้ร้องดังกว่าเก่า"อะไรนะ!!!!!!!!!!!!!! ฉันเนี่ยนะ!!!!!!!!!!!!! มั่วแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
      "กระผมอยู่มาเกือบจะหกสิบปีแล้ว เคยเห็นสิ่งนี้มาสองรอบแล้วล่ะ ครั้งแรกเมื่อประมาณห้าสิบปีก่อน ครั้งที่สองก็ตอนนี้..."
      "คนที่ฉันหนีมา...เคยบอกว่าให้จัดการกับคนที่ครอบครองวาพ์บสตาร์นี้....ไม่นึกว่าจะเป็นนาย...."
      "เอาไว้ค่อยเล่าก็ได้นะ คุณหนูคนนี้น่ะ ตื่นแล้วล่ะ"เสียงอุ้มดังขึ้นและเธอหันไปมองคุณหนูดีดีดี
      "...ฉัน...ฉันทำอะไรลงไป......"น้ำเสียงของคุณหนูดังขึ้นอย่างเบาๆ
      "ไม่ว่าจะยังไง......ฉันต้องคุยกับนายแล้วล่ะ"เมต้าไนท์ท่าทางเปลี่ยนไปทันที
      "กระผมคงต้องขอคุยด้วย...."พ่อบ้านพูด"กระผมชื่อเอสโซ่ เรื่องนี้ต้องแจ้งกับทางตำรวจสากลด้วยนะครับ"
      "เอ๋ เดี๋ยวๆๆๆๆๆ นี่ผมงงไปหมดแล้วนะเนี่ย!"เคอร์บี้กุมหัวตัวเองและเหมือนมีอะไรไหลเข้าหัวของเขามา
      ..........
      ที่นี่มัน...