Translate

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Kirby's story of star ตอนที่ 7 : ดอกไม้ที่ไร้สีสัน - ปฐมบท

       "อ๊ะ สวัสดีครับ รับดอกไม้อะไรครับ"
       "อืม.....เอาไปเยี่ยมคนป่วยนี่เอาดอกอะไรดีล่ะ"บุ๊คถามชั้น ในขณะที่ชั้นกำลังยืนดูดอกไม้อยู่
       นี่ก็ผ่านไปแล้วเดือนนึงเต็มๆสำหรับการฝึกงาน หลายวันมานี้ไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าโชคดีสุดๆ เพราะว่าระยะนี้มันมีเรื่องไม่ปกติเกิดขึ้นกับชั้น ทั้งการที่กลายเป็นคนที่ล้างบาปอะไรนั่นได้ วาพ์บสตาร์ อะไรต่อมิอะไรอีก
       เมื่อเช้าบุ๊คเค้าได้ยินมาว่าเพื่อนของเขา นนท์ ขาหัก ต้องเข้าโรงพยาบาล เขาเลยอยากจะไปหาเพื่อน และลากชั้นมาด้วย ไม่ใช่ว่าชั้นไม่เต็มใจ แต่ชั้นไม่ถูกชะตากับโรงพยาบาล เพราะว่าเมื่อ 5 ปีก่อนเคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับชั้น ได้ผ่าตัดด้วย แต่ชั้นก็จำไม่ได้ว่าเพราะเป็นอะไรนี่สิ ถามแม่ แม่ก็ไม่ยอมตอบ บอกว่าถ้าได้ฟังอาจจะตกใจมากก็ได้
       ชั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ไม่ยอมบอก ทำไมต้องตกใจ เพื่อนที่โรงเรียนก็เหมือนจะให้เงียบเรื่องนี้เอาไว้ด้วย หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็ปกติดี
       "อ๋อ ถ้าเยี่ยมคนป่วยก็ดอกนี้สิครับ กุหลาบขาว"เด็กชาวแคปปี้พูดตอบกลับมา
       "นี่ นายว่าโอเคมั๊ย เคอร์บี้"บุ๊คหันมาถามชั้น
       "สวยนี่ แต่ชั้นว่าสีส้มดูสดใสกว่านะ"ชั้นตอบกลับไปอีก"น่าจะทำให้ดูสดชื่นกว่านะ"
       "ตาถึงนี่ครับ"เด็กคนนั้นยิ้ม"ชั้นเองก็ชอบสีส้ม สวยมากเลยละ ใช่....สวยมาก..."
       ชั้นไม่เข้าใจที่เด็กคนนั้นลดเสียงต่ำลง แล้วก็เหมือนมืดมนลงด้วย แต่ว่าอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า
       "งั้นเอาสีขาวผสมกับสีส้มเลยดีกว่า เท่าไหร่ครับ"บุ๊คไม่ได้สังเกตุถึงสิ่งนี้ และจ่ายเงินไป
       ..........
       "ว้าว ขอบคุณนะ แล้ว...นั่นใครเหรอ?"
       "คนที่มาฝึกงานร้านชั้นน่ะ ชื่อเคอร์บี้"บุ๊คตอบ"เป็นไงบ้างล่ะนนท์"
       "สบายมากกกก"นนท์ตอบ พลางฉีกยิ้มกว้างเห็นฟัน"ไม่ได้เรียนด้วย ดีสุดๆ"
       "เพราะงี้แหล่ะเกรดถึงตก"บุ๊คทักขึ้น"พูดถึงเกรด เทอมที่แล้วเจ็บใจมากเลย คอมตกอีกแล้ว วิชานี้สู้อุ้มไม่ได้ซักที ยัยเกมเมอร์มีดีแค่วิชานี้รึไงกันน้าาา"
       "ชั้นยังได้แค่พละเอง นายน่ะสมบูรณ์แบบทุกวิชานี่นา คะแนนเต็มร้อยก็ได้ตั้งเก้าสิบขึ้นทุกวิชา"นนท์พูดต่อ"อ้อ นายน่ะ เคอร์บี้ใช่มั๊ย ได้เกรดเท่าไหร่เหรอ"
       นนท์ถามชั้น ทำไมถามกันนะ เกรดเรายิ่งไม่ค่อยเท่าไหร่ด้วย
       "ถ้าเฉลี่ยกันแล้วก็ 3.3 มั๊ง"ชั้นตอบตามความเป็นจริง ถ้าวิทย์กับคณิตไม่ฉุดลงล่ะก็นะ ป่านนี้เกรดก็คงจะดีกว่านี้แล้วล่ะ
      "โหหห มากกว่าชั้นอีกนะ เนี่ยถ้าไม่ได้บุ๊ค ชั้นคงโดนแม่ด่าจนตายแน่ๆ"นนท์ร้องหูทันที แม่ชั้นบอกว่าเกรดน้อยนี่นา"จะว่าไปทำไมดอกไม้ดูเฉาๆไงไม่รู้ล่ะ"
       "เอ๋ จริงด้วย ตอนซื้อมายังว่าสดๆอยู่นะ"บุ๊คบอก"สีสดมากเลย แปลกแฮะ สงสัยโดนพวกควันรถนู่นนี่เยอะแยะมั๊ง ช่างเถอะ"
       "น่าสงสัย...."
       ชั้นพูดพึมพัมเบาๆ ชั้นแอะใจตั้งแต่เช้าแล้ว เด็กคนนั้นดูแปลกๆด้วย ไม่ชอบมาพากล
       "อะไรเหรอ"บุ๊คหันมาทางชั้นในขณะที่ชั้นกำลังนึกผังมโนทัศน์เหตการณ์ในสมอง
       "เปล่าๆ"ชั้นปฏิเสธทันที ทั้งที่รู้ว่าโกหกเต็มเปา
       ..........
       "วันนี้คิลเลอร์สุดยอดมากเลยนะะะะะ ชั้นพาเขาไปร้านเกมใกล้ๆ หาเพื่อนเล่นเกมเต้นด้วยกัน ทีแรกชั้นมั่นใจมากว่าชนะแน่นอน สุดท้ายเป็นไง คิลเลอร์ชนะ!!!! เต้นคล่องมากเลยล่ะ คนมุงดูเต็มเลยยยยย"
       เสียงของอุ้มดังมาจากบนบ้าน สงสัยเล่าอะไรให้ใครฟังอยู่ล่ะมั๊ง
       "นี่ๆ เต้นให้ดูหน่อยสิ นะนะนะนะนะนะนะ"
       "ไม่"
       "ทีตอนนั้นยังเต้นเลย"
       "ก็ตอนนั้นมันเล่นเกมนี่นา ทำไมตอนมาเต้นตอนนี้ล่ะ ไม่ได้เล่นซักหน่อย"คิลเลอร์เถียงอุ้ม เขากล้าเถียงอุ้มด้วยแหะ
       "พี่ ผมก็อยากเห็นนะ"เมต้าไนท์เรียกร้องต่อ ชั้นจึงขึ้นไปชั้นสองเพื่อไปหาพวกเขา
       "อ๊ะ เคอร์บี้ มาๆๆๆๆ"อุ้มเรียกให้ชั้นเข้าไปในห้องนั่งเล่น บนโต๊ะมีโน๊ตบุ๊ค(ไว้เล่นเกมเฉพาะ) เกม และขนมถุงสองสามถุง คิลเลอร์นั่งอยู่ข้างๆอุ้ม ส่วนเมต้าไนท์กำลังง่วนกับการเอาลูกอมกีวี่เข้าปาก ทั้งสามกำลังนั่งดูโทรทัศน์ที่ฉายรายการเกมโชว์อยู่
       "เมต้าไนท์....ไม่กลัวสำลักเหรอนั่นน่ะ"ชั้นถามเขาทันทีที่เห็น
       "อือ...ไอ้ๆ อะอ่อยอะอาย"เมต้าไนท์พูดอู้อี้ ชั้นจึงไม่ชวนคุยต่อ แล้วหันไปทางอุ้ม
       "นี่ๆ มากล่อมให้คิลเลอร์เค้าเต้นให้ดูเถอะ ช่วยกันๆๆๆๆ"
       "จริงเหรอ นะนะนะนะนะนะนะ"ชั้นอ้อนเขาต่อด้วย ถ้าเป็นจริง ชั้นก็อยากเห็นด้วยเหมือนกันนั่นแหล่ะ จะเป็นยังไงกันนะ
       "บอกว่าไม่ไง โธ่เอ๊ยยยยย" คิลเลอร์ลากเสียงยาว และไม่สนใจต่อไป ชั้นจึงไม่ยุ่งด้วยต่อ
       "อ๊ะ ข้อนี้ตอบสามแน่นอน สาม สาม สาม อ่าว?" อุ้มเงียบ "บ้าจริง ข่าวด่วนคั่นรายการ?!? ให้ตายเถอะ กำลังลุ้นอยู่แท้ๆ"
       ดูเหมือนอุ้มจะไม่พอใจมากที่มีข่าวมาคั่นรายการ
       "เพราะอย่างงี้แหล่ะ ชั้นถึงเล่นเกมตลอด หนีจากสังคมข่าว เรื่องโหดร้ายเยอะเกิน"
       เนื่องจากว่าไม่มีไรให้ดูแล้ว พวกชั้นที่นั่งกันสี่คนจึงดูข่าวสั้นที่ออกอากาศตอนนี้อย่างจำใจ
       [ทางเราคาดการณ์ว่าคราวนี้เป็นฝีมือขององค์กรลึกลับอีกครั้งครับ ดูจากสภาพของที่เกิดเหตุแล้ว รุนแรงและป่าเถื่อนมาก เหมือนกำลังหาอะไรอยู่]
       "รุนแรงนะนั่น..."เมต้าไนท์พูด เขาหันไปมองคิลเลอร์"พี่คิดว่าไง"
       "อือ"คิลเลอร์ตอบแค่อือ เขากำลังตั้งใจดู
       "เอ๊ะ นี่แถวบ้านเราไม่ใช่เหรอ"บุ๊คที่เข้ามาตอนไหนไม่รู้พูดขึ้นมา ทำไม่ทุกคนตั้งใจกันไม่เว้นแต่คิลเลอร์"ตรงตลาดที่ห่างไปอีกร้อยเมตรน่ะ"
       "เอ...ไม่คุ้นแฮะ"อุ้มตอบกลับมาอีก"รึว่าชั้นเป็นพวกนีท*ไปแล้ว"
       * - นีท =พวกที่ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ยอมเรียน ไม่ยอมทำงาน - *
       "เหมือนหาอะไรอยู่เหรอ......"ชั้นพูดพึมพัมในปาก แต่ความจริงแล้วชั้นนึกถึงเด็กที่อยู่ที่ร้านดอกไม้เมื่อเช้า ทำไมถึงมีอะไรแปลกๆชอบกลอยู่ก็ไม่รู้สิ...
       หลังจากข่าวนั้นจบ ทุกคนก็มานั่งดูรายการอื่นต่อ ส่วนชั้นก็เดินลงมาข้างล่าง นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวที่ทุกคนนั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน
       ชั้นหยิบวาพ์บสตาร์ขึ้นมาดู และนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา
       ผู้ที่สามารถล้างบาปได้...
       บาปทั้งห้า....
       เด็กคนนั้นที่ชั้นเห็นในภาพหลอน...
       ฟังเหมือนแปลกแต่ทุกอย่างเหมือนจะถูกกำหนดมาแล้วว่าทุกอย่างมันจะเป็นอย่างนี้ ชั้นไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ชีวิตชั้น...จะเป็นยังไง ชั้นสับสนระหว่างความจริงกับสิ่งที่เป็นอยู่ ทั้งที่สองอย่างนี้แทบจะเป็นอย่างเดียวกัน แทบจะไม่แตกต่างกัน เมต้าไนท์กับคิลเลอร์ทั้งคู่ก็มาจากกลุ่มองค์กรที่ตำรวจสากลไล่ล่าตามจับด้วย ถ้าเกิดพวกเขาหักหลังมาล่ะ.... แล้วถ้าดีดีดีไม่ได้เข้ามาที่ร้านของชั้นในวันนั้น เขาก็จะไม่ได้ถูกชั้นล้างบาป แล้วจะเป็นยังไง แล้วถ้าเกิดย้อนไปอีก เมต้าไนท์ไม่ได้มานอนอยู่ข้างร้าน ชั้นก็ไม่รู้จักเขา และจะไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นสินะ แสดงว่า ทุกอย่างมันถูกวางไว้ให้เป็นระเบียบหมดแล้วสิ
      "หว๋าๆๆๆๆ"
      ชั้นได้ยินเสียงๆหนึ่งจากหน้าร้าน ชาวแคปปี้ที่ตัวสีเดียวกันกับชั้น ดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก และตาของเขาเป็นสีน้ำเงินประกาย ถ้าได้จ้องตา ในดวงตานั้นเหมือนจะมีดาวอยู่นับร้อยๆดวงเลย
      "ช่วยเก็บนะครับ"ชั้นอาสาเข้าไปช่วยเก็บแอปเปิ้ลที่เขาทำหล่นตามทาง ซุ่มซ่ามน่าดู
      "ขอบใจนะ" เขาตอบสั้นๆ แต่ทำไมเหมือนน้ำเสียงนี้ชั้นคุ้นจัง
      หลังจากช่วยเขา เขาก็มองหน้าชั้นใหญ่ มีอะไรรึเปล่านะ
      "ดูท่าทางมีเรื่องไม่สบายใจนี่?" เขาถามชั้นมาตรงๆ ดูออกด้วยเหรอ
      "เอ่อ..ครับ" ชั้นตอบไป "ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ.."
      "จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเล่า! ชั้นน่ะย้อนกลับมาช่วยน.....อ๊ะ!"
      "เอ๋? อะไรนะครับ?" ชั้นไม่ทันได้ฟังที่เขาพูดทำให้จับใจความอะไรไม่ได้เลย เขาเลยบอกอีกว่า
      "ช่างเถอะๆ แต่ชั้นเคยเรียนเกี่ยวกับการทำนายทายทักมาก่อนน่ะ ชั้นเลยเดาได้ว่ามีเรื่องไม่สบายใจ เอางี้ ชั้นจะบอกอย่างนึงนะ อนาคตของนายน่ะ อาจจะไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ แต่ชั้นรับประกันได้เลยว่าสนุกมากแหล่ะ"
      ชั้นไม่ทันได้ฟังอีกครั้งเพราะอุ้มเรียกให้ชั้นขึ้นไปหาก่อน ชั้นจึงรีบขึ้นไป แต่ก่อนหน้านั้นชั้นได้หันไปถามเขาอีกครั้ง
      "อ๊ะ คุณชื่ออะไรครั...เอ๊ะ?"
      เขาหายไปแล้ว...
      ไปไหนกันนะ? ช่วงเสี้ยวเวลาที่ชั้นทักอุ้มกลับไป เขาก็หายไปเสียแล้ว ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงก้าวเดิน
      น่าสงสัยแฮะ..
      ..........
      ฝั่งทางบุคคลที่สาม
      เกือบแล้วมั๊ยล่ะ กะว่าจะแวะมาคุยด้วยซักหน่อย เพลอหลุดปากออกไปได้! ซวยจริงๆ
      จะว่าไป เมื่อก่อนชั้นก็แบบนี้นี่นา คงไม่เป็นไรหรอก
      หวังว่าเท่านี้ก็ช่วยเขาได้บ้างนะ ซักนิดก็ดี
      ..........
      "มีอะไรเหรอ?"เคอร์บี้ถามอุ้มที่กำลังนั่งอยู่กับพื้น ที่เดิม ไม่มีขยับ
      "นายมาไม่ทันอีกแล้ว คิลเลอร์ยอมใจอ่อนเต้นให้ดูสิ เมต้าไนท์มองตาค้างเลย ใครจะเชื่อล่ะว่ามีคนที่ร่างกายพริ้วขนาดนี้อยู่ด้วย" อุ้มบอกเคอร์บี้
      ไม่นานนัก พวกเขาได้ยินเสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งในร้านดังขึ้น
       "มะ....หมายความว่าไงนะ?!?"เด็กคนนั้นพูดเสียงดัง"เธอ....."
       "คนอย่างเธอน่ะ ชั้นไม่ชอบหรอกนะ! ผู้ชายอะไรกัน"เด็กผู้หญิงอีกคนพูดแทรก ท่าทางมาด้วยกันแล้วก็ทะเลาะ
       หลังจากนั้นไม่นานเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ขว้างช่อดอกลิลลี่สีขาวใส่เขา ออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
       "เอ...นั่นคนที่อยู่ที่ร้านดอกไม้นี่นา เป็นไรมั๊......"
       เคอร์บี้ที่ไม่ทันได้พูดจบประโยคก็ต้องตกใจกับตัวเด็กคนนั้น ที่ช่อดอกไม้กำลังเปลี่ยนสี--สีเทา และกลายเป็นสีดำสนิท
       "จะเอา....อย่างงั้น.....เหร.......อ"เสียงของเขาต่ำลงเรื่อยๆ เคอร์บี้ที่เขาสังเกตมาตั้งแต่อยู่ในร้านดอกไม้ก็รู้ทันที
       "เขา....เขามีบาปอยู่!!!!!!!!" เคอร์บี้ไม่ทันได้รออะไร เขารีบหยิบวาพ์บสตาร์ของเขาขึ้นมา และวิ่งไปที่เด็กชายคนนั้น ไม่ทันไรเด็กคนนั้นก็ผลักเคอร์บี้ล้มลง แรงของเขาค่อนข้างเยอะพอสมควร
       "จะเอาอย่างงั้นเหรอ......จะเอาอย่างงั้นเหรอ! จะเอาอย่างงั้นเหรอ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าาาาาาาาา!!!!!!! ใช่แล้ว....จะเอาอย่างนี้ไง!!!!!" น้ำเสียงจากเสียงอันแผ่วเบากลับกลายเป็นน้ำเสียงที่ดูบ้าเลือดขึ้นมาทันทีทันใด เด็กคนนั้นหยิบแจกันที่วางไว้บนโต๊ะมาทุบให้เป็นขวดปากฉลาม และวิ่งไปแทงเคอร์บี้
       "ด...เดี๋ยวสิ!!!!!!!" เคอร์บี้รีบคว้าวาพ์บสตาร์ขึ้นมาอีกครั้ง เด็กคนนั้นผงะ และล้มลงไปในที่สุด
       "ดูท่าจะสงบ....ลงแล้วล่ะมั๊ง...."อุ้มออกมาจากที่ซ่อน--ใต้โต๊ะ "ค่อยยังชั่ว ฟู่...."
       "โอ๊ย!" เคอร์บี้เดินเหยียบเศษอะไรซักอย่างที่อยู่บนพื้น"เจ็บๆ อะไรเนี่ย หือ?"
       สิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นเศษใบมีดเล็กๆ เคอร์บี้หยิบขึ้นมาดู แล้วหันไปทางเด็กผู้ชายที่นอนสลบอยู่
       "ของเขารึเปล่านะ...."เคอร์บี้บ่นพึมพัมอีกรอบ"อ๊ะ! รึว่า....."
       ..........
       ---นา*กำ*งพย*ยา---
       ---ไ*ผ*---
       ---อีกไม่น*น น**จ**อง***ยู่*บ*น---
       ---และ**จะ***ไปแทน*นาย---
       ---เคอร์บี้---
       ..........
       "อ่า.....อืม......ม หือ?"เด็กคนที่พยายามถล่มร้านของแม่ลืมตาขึ้นมา ไม่อยากเข้าใกล้เลยแหะ แต่ก็ต้องยอม เพราะว่าเคอร์บี้ก็ลงไปเตรียมน้ำเตรียมท่ามาให้เด็กคนนี้ คนที่เคอร์บี้คิดว่าเขาเป็นที่คนที่มีบาปอีกคน
       บ้าจริง ตั้งแต่เคอร์บี้มาที่นี่ ก็มีแต่เรื่องแย่ๆเข้ามาในชีวิตชั้น อยากจะบ้าตาย
       "อ๊ะ ช..ไม่สิ ผม...อยู่ไหนเนี่ย?"เด็กคนนั้นทักชั้นมาแล้ว ไม่กล้าตอบกลับแหะ
       "ร้านขายขนมปังที่นายก่อเรื่องนั่นแหล่ะ ชั้นชื่ออุ้ม นายล่ะ"ชั้นตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ใจดีให้เขา ปกติชั้นก็ไม่มีมนุษยสัมพันธ์เท่าไหร่ด้วยสิ
       "บานดาน่า....แล้วที่เมื่อกี๊ที่บอกว่าผมก่อเรื่อง....."
       บานดาน่าถามชั้นด้วยสายตาที่ขุ่นมัว ชั้น...ควรจะโกหกรึว่าบอกความจริงดีล่ะ?
       แต่ชั้นก็เป็นคนตรงไปตรงมาด้วยสิ
       "นายน่ะ อยู่ๆก็เอาแจกันในร้านมาไล่แทงเพื่อนชั้น ดีนะ เขาไม่เป็นอะไร เขาเอาวาพ์บส...เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกนะ..."ชั้นเกือบหลุดปากไปแล้วสิ
       "โกหก...."
       จู่ๆ บรรยากาศรอบข้างก็มืดมนทันที อะไรกัน ความรู้สึกแบบนี้....
       "แก...โกหก....."
       " ชั้นไม่ได้โกหกนะ!!!" ชั้นรีบขึ้นเสียงตามพื้นฐานของชั้นทันที
       "เหรอ....หึ...."
       บานดาน่าลุกจากเตียง เดินมาหาชั้นช้าๆ แต่ท่าทางน่ากลัวแบบนั้น ทำไมขาชั้นไม่ยอมถอยออกมาจากตัวเขา
       "ตายไปซะ.....คนแบบนี้น่ะ.....ตายซะ!!!!!!!!"
       "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"