Translate

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

Kirby's story of star ep 10 : การหายตัวไปของเคอร์บี้

     "อ๊ะ! เคอร์บี้!!!"
     เสียงเพื่อนของเคอร์บี้คนหนึ่งดังขึ้นมาทักทายเขา ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ท่าเรือ สถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งล่าสุดเมื่อสามเดือนที่แล้ว ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ท้องฟ้าวันนี้ไม่ค่อยเปิด แสงแดดที่ลอดผ่านเมฆมานั้นเป็นแสงแดดที่ไม่อบอุ่นเอาเสียเลย เคอร์บี้ที่เอากระเป๋าเดินทางใบเดิม หมวกใบเดิม ลากมาที่ท่าเรือเห็นหน้าเพื่อนก็ยิ้มตอบกลับ
     "เป็นไงบ้างล่ะ"เคอร์บี้ถามเพื่อนของเขา"สนุกรึเปล่า"
     "งานชั้นสนุกมากเลยล่ะ! เจ้าของร้านชอบพาชั้นไปร้านอาหาร นายล่ะ สนุกมั๊ย?"
     เมื่อเคอร์บี้ได้ยินคำถามเพื่อนของเขา เขาอยากจะตอบไปทันทีว่า เขาเกือบจะไม่สนุกเสียแล้วในตอนท้ายๆ แต่เขาก็ฝืนยิ้มไปและตอบว่า
     "สะ...สนุกสิ! มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นด้วยนะ..จริงๆนะ!"
     เพื่อนของเขาเอากระเป๋าขึ้นเรือให้ เคอร์บี้บอกว่าจะไปลาคนที่มาส่งให้
     เขาวิ่งไปที่รถหรูที่จอดอยู่ข้างถนน ในรถมีดีดีดี พ่อบ้านเอสโซ่ และบานดาน่าอยู่
     "นายคุยอะไรกับเขาเหรอ"ดีดีดีถาม"เห็นนายเกร็งๆไป"
      "ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่ถามว่าสนุกมั๊ย....อยากตอบว่าเกือบจะสนุกจัง..."
      "อื้ม ผมรู้นะว่ามันยากที่จะฝืนตอบทั้งยิ้มแบบนั้น แต่ผมว่าเคอร์บี้ช่วยทนอีกซักนิดละกันนะครับ"บานดาน่าบอกเคอร์บี้
     "คุณหนูเคอร์บี้ครับ จำได้อยู่ใช่มั๊ย วิธีใช้วาพ์บสตาร์น่ะ แต่กระผมขอย้ำนะครับว่าถ้าไม่ถึงขั้นที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็อย่าเอาขึ้นมาใช้เด็ดขาด"พ่อบ้านเอสโซ่ย้ำเคอร์บี้เรื่องของวาพ์บสตาร์"สิ่งนี้กันได้ทั้งพลังของความมืด สามารถสะท้อนกลับไปได้ และสามารถขึ้นไปให้เราบินได้ด้วย"
     "ชั้นลองแล้วๆ ถ้านายกระโดดขึ้นไปบนวาพ์บสตาร์ มันจะขยายส่วนได้ด้วย สุดยอดเลย..."ดีดีดีมองวาพ์บสตาร์ของตัวเอง"ดูแลตัวเองด้วยนะ ระวังด้วยล่ะ"
     "ผมก็เหมือนกัน ระวังด้วยนะครับ"บานดาน่าเสริมดีดีดีขึ้นมา
     "ถ้างั้น...ชั้นไปนะ คุณพ่อบ้านขอบคุณนะครับ ดีดีดี บานดาน่า ฝากทักทายคนอื่นด้วยนะถ้าพวกนายได้ไปหา"
     เคอร์บี้วิ่งกลับมาที่ท่าเรืออีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเห็นคนที่เขาไม่ชอบหน้าที่สุดในห้องด้วย
     เขาคนนั้นชื่อว่า ซากากิ
     "ซากากิ!"เคอร์บี้พูดกับซากากิ เด็กชายคนเดียวที่เป็นมนุษย์ที่อยู่ห้องเดียวกับเขา เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่การเรียนดีสุดๆ แต่ก็หยิ่งสุดๆเช่นกัน เขาชอบดูถูกเคอร์บี้อยู่เสมอ
     "ว่าไง น้องพิ้ง" เมื่อเขาพูดว่าน้องพิ้ง เคอร์บี้ก็โกธรทันที แต่ก็ระงับเอาไว้ได้ เพราะเขามีเรื่องที่กังวลมากกว่าเรื่องของซากากิเสียอีก
     "อ้าว เป็นไรไปล่ะ"เคอร์บี้เดินผ่านซากากิไปทันที ซากากิจึงเดินตามและกระซิบกับเขา
     "มีเรื่องปิดใช่มั๊ยล่ะ..."
     เคอร์บี้สะดุ้ง เขารีบเดินหนีอีกรอบ คราวนี้ซากากิไม่ตามแล้ว เขาสังเกตว่าซากากิหันไปพูดกับก๊วนของเขา หันมามองเคอร์บี้ และหัวเราะกัน
      ..........
     เรือออกจากฝั่งได้ครึ่งทางแล้ว
     ชั้นที่กำลังยืนเกาะราวเหล็กเรือ กำลังมองท้องฟ้าที่มืดครึ้มนี้อยู่ ชั้นรู้สึกใจคอไม่ดีเลย
     เพื่อนคนอื่นที่กำลังกินอาหารที่เรือแจกมาให้พูดเรื่องการฝึกงานอย่างสนุกสนาน ในขณะที่ชั้นหนีมายืนที่นี่คนเดียว ชั้นมีเรื่องอยากจะพูดมากมาย แต่ชั้นกลัวว่าจะเผลอพูดเรื่องที่ชั้นเป็นคนที่สามารถล้างบาปได้
     "นายมาทำไรที่นี่น่ะ"
     ซากากิเดินเข้ามาทางชั้น มือของเขาถือไม้บาร์บีคิวมา
     "เอ้า"
     เขายื่นบาร์บีคิวมาให้
     "ใช่ว่าอยากจะให้หรอก ชั้นเห็นนายแปลกๆไป นายเป็นอะไรน่ะ ปกตินายมันเป็นคนขี้คุยไม่ใช่เหรอ เกิดอะไรขึ้น กินยาลืมเขย่าขวดรึไงกัน รึว่าไปทำเรื่องที่ร้านไว้"
     เขายิงคำถามมากมายมาที่ชั้น ชั้นก็ตอบไปด้วยถ้อยคำที่โกหก
     "ไม่มีอะไรหรอก ชั้นไม่ค่อยสบายน่ะ ทำไมนายถึงมาหาชั้นที่นี่ล่ะ"
     "ชั้นแค่อยากจะบอกนายว่า ที่ชั้นมีความสามารถขนาดที่นายเทียบไม่ติดน่ะ เป็นเพราะเจ้าสิ่งน....เหวอ!"
     เรือที่เรานั่งมาจากฝั่งเริ่มโคลงเคลง คลื่นทะเลสูงขึ้นอย่างชัดเจน และชั้นก็เห็นมวลเมฆจำนวนมากลอยอยู่เหนือหัวของพวกเรา
     ชั้นเห็นสายฟ้ากำลังจะผ่าลงที่ตัวของซากากิ ชั้นจึงรีบวิ่งไปผลักเขาให้พ้นพร้อมกับตัวชั้น เขาทำได้แต่โวยวายว่า
     "ชั้นหลบได้น่า!"
     "แต่เมื่อกี๊นายเกือบโดนแล้วนะ!"ชั้นเถียงเขากลับไป เขาทำหน้าบูดบึ้ง แต่ก็บอกกับชั้นว่าขอบคุณ
     "ชั้นว่าตอนนี--เหวอ! ทำไมเรือโคลงขึ้นเรื่อยๆเนี่ย! ตอนนี้เรารีบไปหาเพื่อนเราดีกว่านะ!"ชั้นบอกซากากิ เขาพยักหน้าให้ชั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เราไม่ทะเลาะกัน ชั้นจึงจับมือของเขาและค่อยๆพากันเดินไปหาเพื่อนที่อยู่ข้างหน้า
     "เรือโคลงแรงกว่าเดิมอีก!"ซากากิบอกชั้น"ชั้นว่าเราหาที่เกาะเอาไว้ดีกว่า เกาะอะไรดีล่ะ"
     "อ๊ะ! อันนี้ได้นะ รับน้ำหนักเราสองคนน่าจะได้"ชั้นชี้ไปทางราวเหล็กที่เชื่อมเป็นทางกั้นของทางเดินกับข้างเรือ
     "ยะ...แย่แล้ว! รีบเกาะเอาไว้เร็ว!"ซากากิดึงชั้นไปทางราวเหล็ก เขาเอามือของชั้นขึ้นมาจับราว มือของเขาอยู่ข้างๆ
     "เคอร์บี้! ความจริงแล้วชั้นก็ไม่ได้อยากจะทะเลาะกับนายหรอกนะ แต่ชั้นไม่รู้ว่าจะคุยกับนายยังไงเท่านั้นเอง ชั้นขอโทษนะ!!"ซากากิพูดเหมือนสั่งเสียกับชั้น
     "แต่ว่าตอนนี้นายอย่าพึ่งหมดหวังสิ! เราต้องรอดให้ได้นะ!"ชั้นให้กำลังใจเขา เขาพยักหน้าตอบ และเราเอามืออีกข้างมากอดกันเอง
     "จำไว้ว่า ถ้าคนใดคนนึงหลุดไป อีกคนนึงจะรั้งเอาไว้นะ!"ซากากิบอกชั้น ชั้นเอามือของชั้นที่กอดซากากิอยู่เอากระเป๋าสะพายที่มีวาพ์บสตาร์อยู่ไว้กลางเราสองคน เขาไม่ได้ถามอะไร แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็มืดสนิทลง
     ..........
     "อือ..."
     ชั้นที่ลืมตาขึ้นมาเห็นซากากิที่กอดอยู่ข้างๆชั้นกำลังค่อยๆลืมตาขึ้นเหมือนกัน
     "นี่เรา..รอดแล้วเหรอ"ซากากิหันซ้ายขวา"ไม่สิ! ต้องรีบไปดูคนอื่น!"
     ชั้นกับซากากิรีบวิ่งไปที่กลางเรือ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นค่อยลุกขึ้นมา ชั้นเห็นหาดทรายนอกเรือ
     "ทุกคน! รีบไปดูกันเถอะว่ามฃที่นี่ที่ไหน!" ซากากิบอกทุกคน ทุกคนก็เชื่อตอบที่ซากากิบอก เขาเดินมาทางชั้นและบอกว่า
     "ชั้นว่ามันแปลกๆนะ"
     "ชั้นก็ว่างั้น แต่ก็ลองดูซักหน่อยละกัน"
     ชั้นกับซากากิเดินตามหลังกัปตันเรือไป สุดท้ายซากากิก็เดินนำหน้าชั้นไปกับก๊วนเพื่อน ส่วนชั้นก็เดินอยู่ข้างหลังคนเดียว
     ทุกคนต่างตะลึงที่เห็นอาคารสูงใหญ่ตั้งตระหง่าหน้าพวกเขา ชั้นเห็นแล้วความรู้สึกแรกที่เข้ามาคือ
     ความรู้สึกแย่ๆ
     รึว่าที่นี่คือ....
     "ยินดีต้อนรับ...สู่เกาะที่ไม่มีใครเข้ามาถึงได้....เหล่าเด็กน้อย..."
      เสียงที่น่ากลัวเสียงหนึ่งดังขึ้น คนอื่นพากันกลัวทันที
      มีชายสามคนเดินเข้ามาทางพวกเรา คนหนึ่งเป็นชาวแคปปี้ คนเดียวกับคนที่มากับคิลเลอร์ตอนนั้น อีกคนเป็นชาวเพนกิน่า ถือค้อนเหล็กอันน่ากลัว ส่วนคนสุดท้ายเป็นชาย ชายที่เห็นเพียงแค่ดวงตาสีแดงฉาน เขาใส่เสื้อคลุมสีดำสนิท มือของเขา...ไม่ใช่มือ แต่เป็นโครงกระดูก เขามองมาที่ทุกคนแล้วพูดต่อ
     "พวกเธอเคยได้ยินนิทานก่อนนอนที่เป็นเรื่องของเทพเจ้าดีพเอ็นท์มาก่อนใช่มั๊ย....ชั้นจะว่าทั้งหมดนั่น...เป็นเรื่องจริง!! ใช่! เป็นเรื่องจริง! แล้วพวกเธอรู้กันรึเปล่าว่าก่อนที่ดีพเอ็นด์จะสลายไป เขาได้ทิ้งสิ่งที่เรียกว่าบาปไว้!"
     "ชั้นตามหา...ตามหาคนที่ล้างบาปนั่นได้ และชั้นรู้ว่า เป็นหนึ่งในพวกเธอ!"
     "แสดงตัวออกมาสิ!"
     ทุกคนต่างหวาดกลัว ใช่ แม้แต่ชั้นก็กลัว ชั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าชั้นนั้นต้องออกไป แต่ว่า...
     ชั้นกลัว
     "ชั้นนี่แหล่ะ"
     เสียงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากหมู่พวกเรา ไม่ใช่ชั้น แต่ว่า..
     ซากากิ
     ไม่ ไม่ นายไม่ใช่ ชั้นตังหาก ชั้น
     คนอื่นต่างร้องเรียกชื่อเขา ทุกคนปักใจเชื่อสนิทเลยว่าเป็นเขา ไม่มีใครสนใจใคร ไม่มีใครหันมาดูชั้นที่อยู่ตรงนี้
     "มานี่สิ...."ชายคนนั้นชักชวนซากากิ"มาทดสอบฝีมือกันดีกว่า..."
     "ทดสอบฝีมือ...?"ซากากิพูดขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นชายคนนั้นก็เอานิ้วชี้มาที่ซากากิ ลำแสงสีแดงพุ้งมาจากนิ้วทำให้ซากากิล้มลงไป
     "หว๋า"ซากากิมองหน้าชายคนนั้นเต็มๆ
     "เอ้า รออะไรล่ะ ทำไมไม่เอาวาพ์บสตาร์มาใช้"
     "ชั้นน่ะ ไม่ต้องใช้หรอก"
     ไม่ ไม่ ไม่ใช่ว่านายไม่ต้องใช้ นายน่ะ ไม่มีตังหาก เห็นชัดเลยว่าเขาไม่รู้จักวาพ์บสตาร์ด้วยซ้ำ
     "เหรอ เอานี่ไปสิ!" ชายคนนั้นชี้นิ้วมาที่ซากากิอีกครั้ง คราวนี้ลำแสงนั้นสามารถทำลายล้างตัวเขาได้เลย ชั้น...ควรจะทำยังไงดี
     'ชั้นไม่รู้ว่าจะคุยกับนายยังไงเท่านั้นเอง!'
     ชั้นนึกถึงคำที่ซากากิพูดตอนที่เรือโคลง
     'ชั้น...อยากเป็นเพื่อนกับนายนะ!'
     คำนั้นที่ซากากิพูดขึ้นมาก่อนที่จะสลบกันไป
     ใช่แล้ว ชั้น....ชั้นต้องช่วยเขา ในฐานะเพื่อน ชั้นไม่มีเวลามากลัวแล้ว แม้ว่าตัวตนชั้นจะต้องถูกเปิดเผย แต่ชั้นยอม เพื่อเพื่อนของชั้น
     ชั้นเอาวาพ์บสตาร์ออกมาจากกระเป๋าสะพายทันที และวิ่งไปที่ซากากิ ก่อนที่ทุกอย่างจะสว่างจ้า
     ซากากิที่หลับตาปี๋ลืมตาขึ้นและเห็นชั้นที่ถือวาพ์บสตาร์สีเหลืองอยู่ในมือสะท้อนลำแสงนั้นกลับไป และชั้นก็ดันพลังที่ผลักชั้นอยู่ให้ไปข้างหน้า แต่ตัวชั้นก็ล้มลง
     ชายคนนั้นมองที่วาพ์บสตาร์ทันที
     "ที่แท้...แกเองเหรอ...."เขาพูดกับชั้น"ทำไมแกถึงไม่ยอมออกมาแต่แรกล่ะ"
     "เพราะกลัวไง! แต่ว่าตอนนี้ ถ้าแกคิดจะทำอะไรเพื่อนชั้น ชั้นไม่ปล่อยไปแน่!"
     "เคอร์บี้..."ซากากิพูดเบาๆ
     "พวกนายถอยไป!" ชั้นบอกกับทุกคนที่อยู่ข้างหลังรวมทั้งซากากิ แต่พวกเขายืนนิ่ง ซากากิวิ่งไปข้างหลังสุดก่อนเพื่อน
     "ชั้นบอกว่าไปถอยไปไงเล่า!!!!!!"ชั้นย้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม พวกเขาตกใจ และถอยหลังทันทีตามที่ชั้นพูด
     "อ้าวๆ อย่าเพิ่งทำอะไรที่มันวู่มว่ามสิ....ชั้นจะให้เพื่อนแกได้กลับไป แต่ว่ามีข้อแลกเปลี่ยนนะ แกต้องอยู่ที่นี่ไงล่ะ น่าสนมั๊ย"
     "ว่าไงนะ"ชั้นถามเขา ทั้งที่รู้ว่าเขาพูดอะไร"ถ้าแกทำตามที่แกพูดจริง ชั้นก็โอเค แต่ชั้นจะมั่นใจได้ยังไงล่ะ..."
     "ชั้นมีคนไปส่งไง...มานี่สิกาลาทิค"
     "ครับ"
     ชาวแคปปี้คนที่ใส่หน้ากากเหมือนเมต้าไนท์และคิลเลอร์ปรากฏตัวขึ้นมา รึว่าเขาคือ....
     เขาเดินผ่านชั้นและกระซิบเบาๆว่า
     "ชั้นฝ่ายเธอ ชั้นทำงานให้ตำรวจสากล ไม่ต้องห่วง ชั้นจะรีบแจ้งทางนั้นให้รู้"
     ชั้นยืนอยู่ที่เดิม กาลาทิค...หรือพี่ชายของเมต้าไนท์กับคิลเลอร์ พาเพื่อนของชั้นไปที่เรือ เขาทำเสียงขู่พวกเขา ชั้นนั้นเชื่อใจเขา เพื่อนของชั้นมองมาที่ชั้นและพากันพูดว่า
     'นายทำไม่ได้หรอก!'
     'นายไม่ไหวหรอก!'
     'นายรีบหนีมาเร็ว!'
     ชั้นได้แต่มองพวกเขาออกห่างจากฝั่งไปเรื่อยๆ และหันกลับมาทางชายคนนั้นอีกครั้ง
     "แกต้องการอะไรจากชั้น"
     "ชั้น....ต้องการที่จะกำจัดแกออกไปไง....ไม่งั้น...เขาไม่พอใจและเขาจะทำอะไรไม่ได้น่ะสิ..."
     เขา? ใครคือเขาคนนั้นกัน
     ชั้นไม่เข้าใจที่เขาพูด แต่ว่าตอนนี้ชั้นอยู่คนเดียวเสียแล้ว อย่างน้อยก็บอกให้พวกนั้นไปแล้ว จะได้ปลอดภัย ชั้นก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีกรอบ สุดท้ายชั้นก็ต้องเก็บมันเอาไว้ เพื่อไม่ให้ทางนั้นเขารู้ว่าเรากลัว ชั้นเริ่มไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าจะเป็นยังไงต่อไป
     "ตามชั้นมาสิ..."
     ลูกน้องของเขาทั้งสองเอากุญแจมือมาคล้องชั้นไว้พร้อมกับโซ่ ดึงชั้นตามพวกเขาไป ตอนนี้คงได้แต่ตามสถานการณ์ไปก่อนแล้ว
     ..........
     "อะ...อะไรนะ! เคอร์บี้อยู่ที่นั่นเหรอพี่!"
     ชั้นร้องขึ้นมา ให้ตายสิ! มันเกิดขึ้นแล้ว! เจ้านั่นมันเริ่มแล้วสินะ! "แล้ว...แล้วพี่พาพวกเขากลับมาโดยที่ไม่พาเขากลับมาด้วยน่ะเหรอ!"
     "พี่! ใจเย็นก่อนสิ!" เมต้าไนท์ห้ามชั้น ชั้นเอามือมากุมหน้ากาก
     "เคอร์บี้ตกลงข้อแลกเปลี่ยนกับเขาน่ะสิ ว่าเขาจะอยู่ที่นั่น แต่ต้องแลกกับว่าเพื่อนของเขาจะได้กลับ พี่บอกพวกนั้นตอนที่เรือออกห่างจากฝั่งมาไกลแล้วว่าพี่เป็นสายมาจากทางตำรวจสากล และพี่ก็พาพวกเขากลับมาที่นี่ พามาหาตำรวจสากลก่อน"พี่อธิบายมา"ตอนนี้พี่จะพาตำรวจสากลไปบุกที่นั่นด่วน"
     "งั้นผมไปด้วย!"ชั้นบอกพี่ไปโดยไม่ลีลา
     "เดี๋ยว คิลไปด้วยไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไ--"
     "แต่ว่าเคอร์บี้เขาเป็นเพื่อนของผมนะ!"ชั้นเถียงพี่กลับไปอีกรอบ
     "พี่! ผมก็จะไปด้วย!"เมต้าไนท์เดินมาอยู่ข้างๆชั้น"เคอร์บี้เป็นคนที่ล้างบาปให้เรา แต่เราไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนล้างบาป เราคิดว่าเขาเป็นเพื่อน! เพื่อนคนสำคัญด้วย!"
     "เมตี้..."พี่กาลาทิคมีท่าทีอ่อนลงทันที"ก็ได้..."
     "งั้นเรารีบไปหยิบวาพ์บสตาร์ของเรามากันเถอะ!"ชั้นจับมือน้องชายฝาแฝดตัวเองขึ้นไปบนบ้านทันที
     ..........
     "เอ๋! เคอร์บี้อยู่ที่เกาะลึกลับเหรอครับ!"บานดาน่าร้องขึ้นมา"จ..จะทำยังไงดี..."
     "คุณพ่อบ้านครับ! ผมจะไปกับพวกตำรวจสากล!"ชั้นพูดกับคนขับรถให้ พ่อบ้านเอสโซ่ ถึงเขาจะอายุย่างเข้าหกสิบแล้วแต่ก็ซิ่งรถได้
     "มันอันตรายเกินไปนะครับคุณหนู!"
     "แต่เคอร์บี้เขาเคยช่วยผมไว้นะครับ! คราวนี้ผมจะไปช่วยเขาบ้าง!"ชั้นบอกเขาต่อ"นายล่ะ บานดาน่า"
     "ผมก็จะไปด้วยครับ!"
     ..........
     "อ๊ะ"
     ชั้นที่กำลังเดินอยู่ที่ตลาดที่ชายฝั่งประจวบเพราะว่าวันนี้ชั้นว่าง ชั้นจึงขอแม่มาที่นี่คนเดียว เพื่อมาหาเพื่อนของพี่เคอร์บี้และซื้อของบางอย่างที่ไม่มีขายบนเกาะไปด้วย เห็นข่าวบนโทรทัศน์ ข่าวนั้นเป็นข่าวเกี่ยวกับเด็กชายชาวแคปปี้อายุเท่าพี่ บอกว่าตอนนี้ตำรวจสากลกำลังจะรวมกำลังไปช่วยออกมา พร้อมขึ้นรูปของเด็กชายคนนั้นให้ด้วย
     พี่
     ชั้นรีบวิ่งไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อกลับไปที่ท่าเรือทันที ชั้นคิดว่า ถ้าเป็นเพื่อนของพี่เค้า ต้องรู้และขอตามตำรวจไปกันแน่
     "พี่คะ พี่คิดอะไรของพี่ถึงไปอยู่ที่นั่นกัน..."
     ..........
     "มีอะไรเหรอ?"ชั้นถามอุ้มที่นั่งทำการบ้านอยู่ที่ร้านขายเค้ก เธอสั่งเค้กชาเขียวมา กินไป ทำงานไป เปิดเว็บไป ชั้นยอมรับว่าเธอนั้นทำอะไรหลายอย่างได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน
     "ดูข่าวนี่สิ"
     เธอยืนโทรศัพธ์ของเธอมาให้ชั้น ชั้นอ่านและตกใจทันที
     "เดี๋ยวนะ"ชั้นพูด"ไม่จริงน่า..."
     "ใช่ เคอร์บี้ตอนนี้ถูกทางฝั่งคนบ้าพวกนั้นจับได้แล้ว เพราะเขาช่วยเพื่อนเขาที่อ้างว่าเป็นคนที่สามารถล้างบาปจากชายที่มีตาสีแดง ชายคนนั้นมีข้อเสนอว่าเพื่อนของเขาจะถูกปล่อยให้หนี ในขณะเดียวกัน เคอร์บี้จะต้องอยู่ที่นั่น"อุ้มพูดออกมา"นายจะเอาไง?"
     "เอ๋"ชั้นร้องขึ้นมา
     "ไม่ต้องเอ๋เลย! ไปกันเถอะที่ท่าเรือ! เราจะต้องไปนะ!'
     "เดี๋ยวสิ!"ชั้นรั้งเธอเอาไว้ก่อน"แล้วถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะ"
     "ไว้ค่อยคิดเถอะน่า! มาเร็ว! แท็กซี่!"
     ..........
     "ทอยยยย!!!!!! ได้ข่าวจากโทรทัศน์มั๊ย!!!!"ชั้นได้ยินเสียงของคนที่งี่เง่าน่ารำคาญที่สุดดังขึ้นมา นนท์ เขามาขอลอกงานชั้น และเขาก็แตกตื่นทีเดียว
     "...เรื่องของ...เขาเหรอ"ชั้นตอบกลับ ชั้นที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่เงยหน้ามองเขา เห็นชัดว่าน้ำตาคลอที่เบ้าตา
     "ถ้าเกิดว่าเขาเป็นอะไรไปล่ะ!!"นนท์พูดเหมือนคนงอแง"ชั้นห่วงเขาง่าาาาาา ถึงจะไม่สนิทก็เถอะ!!!"
     "เดี๋ยวนะ...."ชั้นหยิบไพ่ทาโรต์ขึ้นมาดูอีกครั้ง"อะไรกัน ไอ้เรื่องแบบนี้...."
     ชั้นรีบวางผ้าลง จูงมือนนท์ลงมาชั้นล่าง บอกแม่ว่าไปทำธุระ และลากเขาออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่ท่าเรือทันที
     ไพ่ทาโรต์บอกว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาจะไปรวมตัวกันที่นั่น...
      ..........
      "อะไรกันเนี่ย..."
      "ไม่ได้นัดกันด้วยซ้ำ...."
      "สุดยอด..."
      "....เป็นไปตามที่คิด...."
      "ไม่นึกถึงด้วยซ้ำ"
      "เอ๋"
      "นี่เธอ..."
      "เรื่องพี่สินะ"
      "มีเรื่องเดียวนั่นแหล่ะ...."
      ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเคอร์บี้มายืนล้อมวงกัน เมต้าไนท์ คิลเลอร์ พวกเขายืนอยู่ข้างๆอุ้มกับบุ๊ค ส่วนดีดีดีกับบานดาน่ายืนอยู่ข้างๆมิโดริ นนท์กับทอยยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของวงนั้น
     "ไม่รู้ล่ะ! ชั้นจะไปช่วยเคอร์บี้! พี่ครับ!"คิลเลอร์หันไปทางเรือที่พี่ชายเขายืนอยู่
     "แล้วแต่ก็แล้วกัน แต่ว่าพ่อแม่รู้มั๊ยล่ะ"กาลาทิคตอบกลับมาด้วยความเป็นห่วง"รู้กันนะว่าโกหกกันมา"
     "หนูไม่บอกพวกเขาเลย!"อุ้มตะโกนบอก"บอกไปก็โดนห้ามอีก สู้หนีออกมาเลยดีกว่า!"
     "ทอยกับนนท์รู้มั๊ยว่าเคอร์บี้เค้า..."
     บุ๊คถามเมต้าไนท์ เมต้าไนท์ส่ายหัว บุ๊คจึงเล่าทุกอย่างให้ฟังไป ทอยยังคงหน้านิ่ง แต่นนท์นั้นหน้าซีด
     "เขาน่ะนะ?!"นนท์พูด"แย่สุดๆเลย!"
     "ไพ่ทาโรต์บอกว่าให้รีบไป...."ทอยบอกกาลาทิค และโดดขึ้นเรือด้วยท่าเท่"เอ้า ขึ้นมาสิ"
     "ทอย! แล้วพ่อแม่เธอล่ะ!"นนท์ถาม"ชั้นก็ยังไม่ได้บอกพ่อแม่เลยนะ!"
     "ก็เหมือนอุ้มไง บอกไปก็โดนห้ามอยู่ดี มาเถอะ! เราอาจจะช่วยบางอย่างได้ ไพ่บอกมานะ!"
     "ทอย..."อุ้มพูด"เอาล่ะว้า ไปอยู่แล้ว!"
     เธอโดดขึ้นเรือตามทอยไป จับมือบุ๊คขึ้นมาด้วย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตามไปด้วยทุกคน พ่อบ้านเอสโซ่ที่บอกว่าอันตรายก็ตามมาด้วย
     "เพื่อความปลอดภัยของคุณหนูครับ!"
     ..........
     "นั่นไง!"กาลาทิคชี้บอกตำรวจสากล"พวกนั้นคงใช้ระบบสร้างคลื่นรุนแรงเพราะคิดว่าจะมีคนเข้ามาได้!"
     "ระบบ?"อุ้มทวนขึ้นมา"หมายถึงใช้โปรแกรมควบคุมเอาเหรอ?"
     "ใช่ แต่ว่าไม่มีใครรู้วิธีปิดมันได้น่ะสิ เราก็ไม่มีแฮคเกอร์ด้วย..."กาลาทิคตอบ ตำรวจสากลคนอื่นก็ส่ายหน้า"พวกเธอก็เด็กทำไม่ได้หรอ--"
     "โอ้ย อะไรกันแค่นี้เองเหรอ ใครมีพวกโน็ตบุ๊คบ้าง"
     อุ้มบ่นออกมา
     "ชั้นมีนะ แต่เด็กอย่างเธอจะเอาไปทำอะไรได้"ตำรวจสากลคนหนึ่งพูดขึ้น ยื่นให้เธอ เธอจึงรีบเปิด
      "รู้นะว่าบนเรือนี้มีไวไฟ"
      "รู้ได้ไง ไวไฟของพวกเราเราซ่อนไม่ให้คนเห็น"ตำรวจสากลอีกคนพูดขึ้นมา
     "เอาน่า หนูขอชื่อ ไอพีแอดเดรส รหัสผ่านได้มั๊ย"
     "ไม่ใช่เวลามาเล่นเฟสนะอุ้ม..."บุ๊คพูดขึ้นมา เธอจึงรีบพูดขึ้นมาทันที
     "เอาน่า! ดูๆไปเถอะว่าชั้นจะทำอะไร!"
     "เอาล่ะ จากตรงนี้ ชั้นจะเจาะเข้าไอพีแอดเดรสของเกาะนั้น ไม่ว่าจะที่ไหน ถ้าเราเจาะไฟล์วอลพวกนั้นได้ เราจะรู้ข้อมูลทุกอย่างของมัน วู้ หนาใช้ได้นี่นา เอ้าเสร็จแล้ว!"อุ้มพูด"เจอแล้วระบบที่ควบคุมคลื่นตรงนั้น จะกดปิดล่ะนะ ดูให้ดีล่ะ"
     เธอคลิ๊กอีกรอบ คลื่นที่แรงนั้นก็กลับมาสงบทันที
     "เป็นไง"
     "ร้ายกว่าที่คิดอีก..."คิลเลอร์พูด"เจาะเข้าไปได้โดยใช้เวลาไม่ถึงห้านาที..."
     "นี่มันแฮคเกอร์ตัวจริงนี่นา...."ดีดีดีพูดต่อ
     "รู้มาจากไหนกัน....ไอ้เรื่องแบบนี้"บุ๊คถามเธอ"รึว่าตัวจริงของเธอเป็นนักแฮคเกอร์ระดับโลก!!"
     "จะบ้าเหรอ! ที่โรงเรียนเราน่ะสิ ครูคอมเรียกชั้นไปคุยส่วนตัวตอนเที่ยง บอกว่าทักษะคอมที่ชั้นมีมันข้ามความสามารถของเด็กไปแล้ว เขาเลยบอกว่า ถ้าเกิดได้ไปทำงานที่มันเกี่ยวกับคอม ควรจะเรียนเกี่ยวกับการเจาะระบบเครื่องอื่นบ้าง เพราะมีคนเจาะเครื่องเข้าไปขโมยข้อมูลเราได้ ฉะนั้นเราต้องเจาะเข้าเครื่องเขาได้ด้วยเพื่อที่จะเอาข้อมูลคืนมา"อุ้มตอบ"จริงๆนะ!"
     "เอาเถอะๆ แต่ชั้นยอมรับเธอนี่มันมีความสามารถจริงๆ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะ หลังจากนี้ชั้นคงต้องให้เธอช่วยอีก เธอกับฝาแฝดของเธอ น้องสาวของเคอร์บี้ คุณพ่อบ้าน แล้วก็สองคนนั้นน่ะ อยู่บนเรือกับตำรวจสากลบางส่วนได้มั๊ย มันอันตรายเกินไปที่จะเสี่ยงบนเกาะนั้น เธอช่วยปิดบางระบบที่พวกนั้นเปิดไว้ด้วย"กาลาทิคพูดกับอุ้ม"ส่วนพวกเธอที่เหลือตามชั้นมาได้ แต่ระวังตัวให้ถึงที่สุดด้วยนะ"
     กาลาทิคเอาหูฟังไมค์หกอันให้แต่ละคนที่จะอยู่บนเรือ
     "ชั้นจำได้ว่ามีผังของเกาะนี้กับอาคารตรงนั้นอยู่ในระบบของพวกนั้น เธอดูมันได้แน่นอน และก็พวกนั้นจะมีสัญญาณตรวจจับด้วย เป็นจุดสีแดง ถ้าเป็นผู้บุกรุกจะเป็นสีขาว เธอปิดระบบเตือนผู้บุกรุกให้ได้มั๊ย"
     "ไม่มีปัญหา"อุ้มรีบปิดระบบเตือนทันที"เรียบร้อย!"
     "พร้อมยังล่ะพวกเธอ"กาลาทิคหันมาทางดีดีดี บานดาน่า เมต้าไนท์และคิลเลอร์
     "อะไรล่ะพี่ ของมันแน่อยู่แล้ว!"คิลเลอร์บอกพี่ตัวเอง"เราต้องใช้เรือเล็กเข้าไปใช่มั๊ย พี่เอางี้มั๊ย แกล้งว่าพี่กับผมพาเมต้าไนท์กับคนอื่นๆทั้งหมดเข้าฝั่งบอกว่าเป็นคนที่คิดจะเข้ามา หลังจากนั้นก็จัดการมันเลย"
     "กู้ดไอเดีย คิลเลอร์!"ดีดีดีพูด
     "อือ...งั้นเราก็ต้องแกล้งกันให้เนียนๆสินะครับ"บานดาน่าหันไปทางเมต้าไนท์
     "แล้วชั้นจะแกล้งยังไงล่ะ เพราะตอนที่ชั้นมีบาป ผลทำให้ชั้นไม่มั่นใจในตัวตนและเปลี่ยนมันอยู่เรื่อย..."เมต้าไนท์คิด
     "เอางี้สิครับ คุณหนูก็แกล้งทำเป็นคนที่คลั่งไปแล้วเพราะว่าบาปนั่นถ้าติดนานเกินไป ส่งผลให้เสียสติและกลายเป็นที่คลั่งได้นะครับ"
     พ่อบ้านเอสโซ่บอกเมต้าไนท์
     "เอ๋? คลั่งเหรอ..?"
     ..........
     "อ้าวๆ....มาแล้วเหรอ แล้วนั่น...คิลเลอร์! แกหายไปไหนมา!"
     "ฮึ ชั้นก็ไปตามเจ้าเด็กนี่มาน่ะสิ แต่นะ เขาคลั่งไปแล้ว ชั้นก็ไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร แต่ว่าเขาเข้ากับชั้นได้ดีกว่าเก่ามาก"คิลเลอร์ที่ทำน้ำเสียงเหมือนคนหมดอารมณ์พูด
     "แกน่ะ! แกน่ะ! ฮึๆ ฮ่าๆ!! แกน่ะ! ใช่! แก!"เมต้าไนท์ร้องเสียงดัง"สมควรจะต้องตายใช่มั๊ย!"
     'หว๋า แสดงได้ดีกว่าที่คิดแฮะ นึกว่าคลั่งไปจริงๆซะอีก'คิลเลอร์นึกในใจ เขาเห็นเมต้าไนท์ทำท่าจะเข้าไปทำร้ายคนที่เฝ้าทาง
     "แล้วคนพวกนั้น?"
     "เป็นคนที่อยากเข้ามาจัดการกับพวกเราน่ะ แค่คนธรรมดาๆคิดว่าจะทำอะไรได้ ไร้สาระ"คิลเลอร์พูด
     "แกโกหก..."
     "ว่าอะไรนะ"
     คิลเลอร์หลบดาบที่พุ่งเข้ามาหาเขาได้ทันแบบเฉียดชิว เขามองคนที่เอาดาบนั้นมาแทงเขาหวังให้ตาย
     "แก...แกทรยศพวกเรา! แกสมควรตาย!"
     "ชิ! จับได้เร็วจังนะ ซอว์ด!"คิลเลอร์พูด"แล้วคู่หูแก ไนท์ล่ะ?"
     "ก็ข้างๆแกไงล่ะ!"ซอว์ดพูดกับคิลเลอร์เขากันไปเห็นไนท์เอาดาบมาชี้จี้เขาข้างๆ
     "สองรุมหนึ่งแบบนี้แย่นะ"คิลเลอร์พูดต่อไป"เมต้าไนท์ เรามาลงมือจัดการพวกนี้ดีกว่ามั๊ย"
     "เอาสิพี่ ผมก็เบื่อที่ต้องมาแสดงอะไรที่มันบ้าๆแบบนี้แล้วล่ะ"เมต้าไนท์เดินเข้ามาข้างพี่ชาย
     "รึว่าพวกแก..."
     "ใช่ พวกเราล้างบาปนั่นหมดแล้วไง!"เมต้าไนท์พูด
     "ชั้นไม่น่าไปจับดาบนั่นเลย เสียดายของชะมัด แต่นะ ชั้นน่ะมีดาบคู่อยู่นี่นา ของที่เพื่อนอีกคนให้มา คิดเหรอว่าจะจัดการพวกเราได้"คิลเลอร์พูดท้าทาย
     "เอาไงดีล่ะ"ไนท์พูด"เอาแบบเป็นชิ้นรึเอาแบบเป็นครึ่งท่อนดี"
     "แบบไหนก็ดีหมดแหล่ะ!"ซอว์ดเอาดาบมาแทงเมต้าไนท์ แต่ว่าเมต้าไนท์นั้นเอาดาบที่อยู่ในฟักที่แนบกับกระเป๋าของเขาข้างหลังออกมารับทัน
     "เฮ้ ชั้นไม่คิดว่าจะได้ต้มยำทำแกงกันง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ใช่มั๊ยพี่"
     "ไม่รู้สิ พวกเราสองคนก็เอาชนะพวกบ้าสองคนได้อยู่ดีแหล่ะคิดไรมาก"คิลเลอร์พูดอวดต่อไป"เอ้า พวกนายไปสิ! พี่ด้วย! ทางนี้เราสองคนจัดการได้!"
      คนที่เหลือวิ่งไปทางที่สามารถเดินต่อไปได้ ดีดีดีกับบานดาน่ามองที่เมต้าไนท์กับคิลเลอร์
     "ไม่เป็นไรหรอกน่า!!"คิลเลอร์บอกพวกเขา
     "เดี๋ยวเราจะตามไป!"เมต้าไนท์พูดเสริม
     เมื่อดีดีดีกับบานดาน่าพยักหน้าและวิ่งตามคนอื่นไป เมต้าไนท์กับคิลเลอร์ก็พูดพร้อมกันว่า
     "เข้ามาเลย!!!"
     ..........
     "อ๊ะ!มีพวกมันสองคนทางซ้าย!"
      อุ้มบอกกาลาทิคและตำรวจสากลทางไมค์ บุ๊คที่นั่งดูก็บอกต่อว่า
     "พวกคุณระวังตรงขวามือด้วยนะครับ! มีกลุ่มเคลื่อนไหวด้วย เปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินดีกว่าครับ!"
     "....ระวังภัยที่อยู่ข้างหน้า....อุ้มมีอะไรที่เป็นอันตรายข้างหน้ามั๊ย"
     "อื้อ มีระบบกับดักประตู ชั้นจะปิดมัน"อุ้มพูดตอบ"เรียบร้อย!"
     "ชั้นว่าเราควรจะอ้อมนะ เพราะผังที่เราปริ๊นออกมา ทางด้านหน้ามันมีกับดักเยอะมาก ถ้าจะปิดทั้งหมดก็น่าสงสัยเกิน"นนท์พูด เขานั่งลงดูผังโครงสร้างของเกาะ พร้อมกับมิโดริและพ่อบ้านเอสโซ่ พวกเขาใช้ปากกาเมจิกสีแดงขีดตามทาง
      "นั่นสินะคะ หนูว่าลองแยกเป็นสองส่วนดีมั๊ย?"
      มิโดริถามตำรวจสากล
      "เพราะว่าถ้าเกิดถูกจับได้หมดเนี่ย เรื่องใหญ่นะคะ"
     "อื้ม งั้นแยกกองกำลังเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเข้าทางประตู ระวังกันด้วย อีกส่วนเข้าทางอ้อม ไกลหน่อยแต่ว่าทางสามารถเชื่อมกันได้!"ตำรวจสากลคนหนึ่งพูด
      ..........
      "เอาไงกับมันดีล่ะ..."
      "จัดการแบบไหนดีนะ..."
      "ครึ่งท่อนมั๊ย"
      "เอาเข้าเครื่องทรมาณก็โอ"
      ตอนนี้ ทุกคนที่เป็นคนของกลุ่มพวกนั้น กำลังคุยหาวิธีที่จะฆ่าชั้นอยู่ ชั้นที่อยู่ในห้องขัง ข้างๆมีผู้ชายแปลกๆ สวมเสื้อคลุมห้องแล็ปสีขาว ชายเสื้อขาดหลุดลุ่ย เขาคงโดนทำร้ายมาสินะ
      "ไปกันก่อนเถอะ ตอนนี้ระบบประตูมันเสีย มาช่วยกันดูหน่อย"
      "อืม เดี๋ยวตามไป"ชาวแคปปี้ที่ส่วมผ้าคลุมมิดหัวพูดกับคนที่เหลือ คนอื่นเดินจากไป เขาเดินเข้ามาใกล้ๆลูกกรงขัง
      "ต้องการอะไร"ชั้นถามเขาไป น้ำเสียงชั้นตอนนี้ช่างไม่มีมารยาทเสียเลย
      "ชั้นมีนี้นะ ไม่ต้องห่วง"
      เขายื่นกุญแจที่มีเป็นพวงๆให้ชั้นดู
      "ชั้นจะไขประตูให้เอง เอ้า"
      "คุณเป็นใคร"ชั้นถามเขาอีกครั้ง"ช่วยทำไม"
      เขาเอาผ้าที่คลุมหัวนั้นออกมา ชั้นจึงจำเขาได้ทันที
      ใช่ ตาที่มีประกายแบบนั้นน่ะ สีตัวที่เหมือนชั้นน่ะ เขาแน่นอน คนที่เคยทำแอปเปิ้ลหล่นหน้าร้านขนมปังเมื่อตอนนั้น แล้วจู่ๆก็หายตัวไปเลย
      "มะ..มาได้ไงครับ!"ชั้นรีบเปลี่ยนน้ำเสียงพูดทันที"แล้วตอนนั้น...ที่อยู่ๆก็หายตัวไป...อ้อ คุณชื่ออะไรครับ!"
      "ไม่ต้องรู้ชื่อชั้นหรอก! คนที่อยู่ในห้องขังคนนั้นเขาก็ทำงานให้กับเมดเทอร์ อย่าไปยุ่งกับเขาเลยดีกว่านะ"เขาพูดบอกกับชั้น"เขามีเข็มฉีดยาพิษอยู่ ที่พวกนั้นพานายมาอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลนี้แหล่ะ เขาจะฉีดยาให้เธอตาย"
      เขารู้ทุกอย่างเลยเหรอเนี่ย สุดยอด เขา...เป็นใครกันแน่นะ
      "แก! ชั้นรู้นะว่าแกเป็นใคร!"ชายคนที่อยู่ในห้องขังพูดขึ้นมา"ใช่แล้ว ชั้นรู้!"
      "รีบไปกันเถอะ!"เขารีบพาชั้นออกไป ท่าทีเขาเหมือนจะหน้าซีดลง แสดงว่าเขาต้องมีอะไรแน่ๆ
     "เอ่อ คุณ..."
     "เรียกชั้นว่า คีน เถอะ!"เขาบอกชั้น"ชื่อจริงชั้นน่ะ เธอไม่ต้องรู้หรอก!"
      "ค..ครับ คุณคีน จะพาผมไปที่ไหนครับ"ชั้นถามเขาอีกรอบ
      "ตำรวจสากลพากันมาที่นี่แล้ว ไม่นานเธอจะปลอดภัย แต่ว่าชั้นต้องจัดการเรื่องนี้ก่อนที่ทางนั้นจะบุกเข้ามา!"
      "จัด..การ?"ชั้นทวน
      "ใช่ อ๊ะ ห้องนี้แหล่ะชั้นจำได้!"เขาบอกชั้นและพลักชั้นเข้าไป"ชั้นจะเข้าไปด้วยอยู่หรอกน่า ไม่ต้องห่วง"
      เขาเดินตามชั้นเข้ามา มองไปรอบๆ และหลับตาลง
      "ทำอะไรครับ"
      ชั้นยังคงซักถามเขาเป็นระยะๆ แต่เขาไม่ตอบ จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหน้าที่มืดสนิท
      "อ้าว....ชั้นบอกให้เจ้าพวกนั้นขังแกแล้วไม่ใช่เหรอ...แล้วออกมาได้ไงเนี่ย.."
      "คนนั้นคือเมดเทอร์ เขาเป็นคนที่นำกลุ่มนี้ เป็นผู้นำสูงสุดไงล่ะ!"คุณคีนบอกกับชั้น ชั้นหันไปมองกับชายตาสีแดง เมดเทอร์คนนั้น
      "แกน่ะ...มาได้ยังไง"เมดเทอร์ถามคุณคีน
      "ชั้นจะมายังไงก็ไม่เกี่ยวกับแกหรอก! ทุกอย่างมันเริ่มที่นี่!"
      "เหรอ...แล้วที่ผ่านมาล่ะ?"
      "ว่าไงนะ!"
      "ที่ผ่านมา...แกก็เป็นเด็กค----"
      "เงียบไปซะ!"
      คุณคีนรีบวิ่งไปที่ตัวของเมดเทอร์และมือของเขาก็ส่องแสงขึ้นพร้อมกับมีไม้อะไรออกมา ความรู้สึกมันเหมือนตอนที่ชั้นได้วาพ์บสตาร์มาเลย
      คุณคีนเอาไม้ที่มีไม้ทรงลูกบาศ์กอยู่บนยอด มีสัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉกอยู่รอบด้านมาฟาดที่เมดเทอร์ แต่ทว่าเมดเทอร์นั้นกลับ.....
     "แก! จะส่งชั้นกลับไปเหรอ!"คุณคีนพูดขึ้นมา"ชั้นยังไม่ได้ทันได้ทำอะไรหลายอย่างเลยนะ!"
      "กลับไปช่วงเวลาของแกเถอะ!!! ชั้นจะจัดการเจ้าเด็กนี่ให้มันจบๆไป!!!"เมดเทอร์สร้างหลุมดำขึ้นมาและดูดตัวคุณคีนเข้าไปทันที
      "คุณคีน!!!"ชั้นรีบวิ่งออกไปช่วยเขาแต่เขากลับบอกว่า
      "จากนี้ไป เธอต้องจัดการเองแล้วล่ะ! เชื่อชั้นสิ! อนาคตเธอจะรู้เองว่าชั้นเป็นใคร ชื่อจริงชั้นคืออะไร!"คุณคีนบอกกับชั้นและส่งรอยยิ้มกลับทั้งที่สถานการ์ณตอนนี้ช่างไม่น่ายิ้มเอาเสียเลย"ชั้นต้องกลับไปที่ๆชั้นมา! ชั้นรู้อยู่แล้วล่ะว่ามันจะเป็นแบบนี้! ชั้นเชื่อมั่นว่าเธอทำได้!"
      "คุณคีน!!!"ชั้นพยายามอย่างมากจะตามเขาไป แต่สายไปเสียแล้ว หลุมนั้นหายไปพร้อมกับตัวของคุณคีน
      นี่หรือ....คือการสูญเสีย...
      "เฮ้ๆ....เจ้าบ้านั่นไม่ตายหรอก ก็แค่ส่งคนรักเก่ากลับไปที่ๆของเขา และปิดกั้นที่นี้เอาไว้ไม่ให้กลับมาอีกไง...."เมดเทอร์พูด"ใจกล้านะเนี่ยที่อุตสาห์ทำอะไรแบบนั้นให้แกเห็น..."
      "อะไรนะ?"ชั้นยืนคิด คำพูดที่เขาใช้กับเมดเทอร์เหมือนรู้จักกันมานานด้วย
      เขามีสายสัมพันธ์กับเมดเทอร์คนนี้เหรอ?
      "หยุด! นี่ตำรวจสากล พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว!"
      ชั้นหันมาทางข้างหลัง เห็นกลุ่มตำรวจยืนกันมากมาย พร้อมทั้ง...
      ดีดีดีกับบานดาน่าที่แขนของเขามีรอยโดนแทง
      คุณคีนพูดถูก ตำรวจสากลจะเข้ามา พวกเขามาช่วยชั้น!
      "แหม๋ๆ คิดว่าชั้นจะยอมง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"เมดเทอร์พูด"ชั้นมีแผนสำรองไว้อยู่ ชั้นรู้นะว่าทางแกมีแฮคเกอร์เด็กสาวที่เจาะระบบเรา แต่ว่าชั้นก็ให้คนของชั้นเจาะคืนไปแล้วล่ะ ป่านนี้เครื่องนั่นคงจะใช้การไม่ได้แล้ว"
      "ทุกคนล้อมตัวเขาเร็ว!"ตำรวจสากลวิ่งผ่านชั้นไปและล้อมตัวของเมดเทอร์ไว้ แต่เมดเทอร์กลับหัวเราะมากกว่าเก่า ดังกว่าเก่า ดีดีดีพยุงบานดาน่ามาทางชั้นบอกว่า
      "โชคดีที่นายไม่เป็นอะไร!!"เขามองหน้าชั้น ตาของเขาคลอไปด้วยสีเหลวสีใส
      "ชั้นไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่า..เจ้านั่นมันพาคนที่ช่วยชั้นเอาไว้จากห้องขังไปไหนก็ไม่รู้ เห็นบอกว่าพากลับไปที่เก่า ชั้น....ชั้นช่วยเขาไม่ทัน!"ชั้นบอกเพื่อนที่อยู่ข้างหน้า และมีน้ำตาไหลลงมาทันที"ชั้นนี่มัน...."
      "แกน่ะ! ยังมีเรื่องที่น่าจะเสียใจมากกว่านี้อยู่อีกนะ!"เมดเทอร์หัวเราะชอบใจ"เรื่องที่ชั้น...จะระเบิดเกาะนี้ไปไงล่ะ!"
      ทันทีที่สิ้นสุดเสียงของเมดเทอร์ด้านหลังของเขาก็มีระเบิดลูกใหญ่ระเบิดขึ้นมา ทำให้ตำรวจสากลบางคนล้มลงทันที
      "ชั้นจะมาตามแกอีกสามปีข้างหน้า! ถ้าแกรอดจากที่นี่ได้!"เมดเทอร์ชี้หน้าชั้น มองด้วยสายตาอันมืดมิด"แล้วแกก็จะรู้เรื่องทั้งหมด!"
      เมดเทอร์เอาผ้าคลุมสะบัดปิดตัวเองเอาไว้ก่อนที่ระเบิดอีกลูกจะระเบิดขึ้น พอชั้นลืมตาขึ้นมา เขากลับหายตัวไปเสียแล้ว
     "ชิ! หนีไปได้เหรอ!"เสียงของตำรวจสากลคนหนึ่งดังขึ้น "ยังไงก็เถอะ ชั้นว่าป่านนี้พวกของเมดเทอร์คงเตรียมทางหนีทีไล่กันแล้ว พวกเรารีบออกจากอาคารนี้กันก่อน แล้วรีบหาพวกมันที่เหลือให้เจอให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้!"
     "เคอร์บี้ เราก็รีบออกไปก่อนเถอะครับ! เมต้าไนท์กับคิลเลอร์กำลังสู้กับนักดาบคู่หูอยู่ข้างนอก บางทีพวกเขาอาจไม่รู้เรื่องที่มีระเบิดก็ได้นะครับ!"บานดาน่าบอกชั้น ชั้นจึงพยักหน้าและช่วยดีดีดีพยุงร่างของบานดาน่าที่แขนนั้นมีเลือดออกอยู่ ชั้นเอาผ้าเช็ดหน้าที่ติดอยู่ในกระเป๋าออกมาพันแผลให้เขา
     ชั้น ดีดีดี กับบานดาน่าพากันตามกลุ่มตำรวจสากลกันไป จนเจอบุคคลหนึ่ง พี่ชายของเมต้าไนท์และคิลเลอร์นั่นเอง เขาถือปืนสองข้าง ตำรวจสากลคนอื่นก็ถือปืนกลบ้าง ปืนลูกซองบ้าง มีกลุ่มของทหารและตำรวจสากลที่อยู่ในอาคารนี้ล้มนอนกันมากมาย
     ใช่ คนเหล่านั้นตาย
     ชั้นไม่เคยเห็นตายมากเท่านี้ต่อหน้าชั้น ชั้นจึงนิ่งไประยะหนึ่ง ถึงแม้ว่าตำรวจสากลต้องป้องกันตัวเพราะฝ่ายนั้นจ้องจะฆ่าคนอื่น แต่ว่า..
     มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน
     ทุกคนแม้ว่าจะดีหรือไม่ดี มาตายเพราะมาช่วยชั้นเหรอ
     ชั้นเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
     ไม่ ไม่ ไม่ ไม่! ไม่! ไม่! ชั...ชั้นไม่ได้อยากให้คนอื่นต้องมาเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อชั้นขนาดนี้ซักหน่อย!
     "เคอร์บี้! นายเป็นอะไรไป!"ดีดีดีทักชั้น ก่อนที่ชั้นจะเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง
     "นายตกใจมากสินะ ชั้น...ชั้นเองก็ตกใจ ถ้าชั้นเป็นนาย ชั้นก็ไม่อยากให้คนฆ่ากันเพื่อชั้นหรอก"ดีดีดีพูดกับชั้นต่อ
     "แต่ว่าตอนนี้เรารีบไปกันเถอะครับ!"บานดาน่าบอกชั้น และพากันเดินต่อไป พี่ชายของเมต้าไนท์กับคิลเลอร์ก็เดินตามหลังกันมาด้วย
     แต่ตอนนี้ชั้นเหมือนมีความรู้สึกอย่างหนึ่งอยู่ในหัว เหมือนมีเสียงหนึ่งกำลังเรียกชั้นอยู่
     'มา--ต-งนี้--'
     ชั้นรีบทิ้งบานดาน่าแล้ววิ่งกลับไปทางที่ชั้นเดินผ่าน มีห้องหนึ่งอยู่ข้างหลังห้องที่คุณคีนพาชั้นเข้าไป ดีดีดีได้แต่พูดเสียงดังตามชั้นมาว่า นายจะไปไหน! เราต้องรีบออกไปแล้วนะ! แต่ชั้นกลับไม่ฟังหรือแม้กระทั่งจะตอบเขาไป
     ชั้นวิ่งมาที่ห้องที่ระเบิดนั่นอีกครั้ง และคราวนี้ชั้นเห็นชาวแคปปี้คนนึงนอนล้มอยู่
     ตัวสีม่วงอ่อนๆ มีกระเป๋าสะพายข้างหลังของเขา เหมือนกำลังหลับอยู่เฉยๆ ชั้นจึงรีบวิ่งไปปลุกเขาทันที
     "นาย...นาย! ตื่นสิ!"
     เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมา ตาของเขาเป็นสีแดง แต่นัยตานั้นกลับว่างเปล่า เหมือนไร้ชีวิตชีวา เขามองซ้ายขวาทำท่าสงสัย และถามชั้น
     "...ที่นี่...."
     "รีบมากับชั้นดีกว่านะ!!!"ชั้นคว้ามือของเขา"รีบออกมาดีกว่า!ที่นี่กำลังจะถล่มลงแล้ว!"
     "กำลัง...ถล่ม?"เขาทวนและทำหน้ามึนงง เหมือนคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน
     "มาเถอะน่า!"ชั้นรีบจูงมือเขาวิ่งทันที เขาก็วิ่งตามแต่วิ่งเหยาะๆคล้ายคนไม่แข็งแรง
     "ชั้นชื่อว่าเคอร์บี้นะ! นายชื่ออะไรเหรอ"ชั้นถามเขาไป แต่เขากลับไม่ตอบ ชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เราวิ่งผ่านร่างของคนที่สิ้นใจไปแล้ว ชั้นนั้นยังไม่หายตกใจ ส่วนเขาหน้าก็ยังนิ่งเฉยราวกับว่าเขาเป็นหุ่นยนต์
     แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าการที่ชั้นบอกชื่อตัวเองให้เขาไป เขาจะทำสิ่งๆหนึ่งขึ้นมา
     ..........
     "นั่นไง! เคอร์บี้!"ดีดีดีพูด เขายืนอยู่ข้างๆเมต้าไนท์ที่เอามือกุมแขนขวา ส่วนคิลเลอร์ก็ยืนขาเดียวเพราะเขาโดนดาบฟาดที่เท้าซ้ายเต็ม ทั้งคู่ช่วยกันพยุงตัว บานดาน่าได้พันแพลแล้ว พวกเขาเห็นเคอร์บี้พาชาวแคปปี้ที่ไม่ยอมบอกว่าเขาคือใครมาด้วย ดีดีดีจึงเดินเข้าไปช่วยเคอร์บี้ และถามเขาว่า
     "เขาคือ...."
     "ชั้นว่าเขาความจำเสื่อมนะ เมต้าไนท์นาย.....คิลเลอร์ด้วย!"
     เคอร์บี้วิ่งเข้าไปหาฝาแฝดทั้งสอง
     "ก็เจ้าพวกนั้นน่ะสิ เล่นสกปรกเอาดาบมาฟาดที่ขาชั้น ดีที่ไม่โดนคมดาบ ส่วนเมต้าไนท์น่ะ โดน..."
     "ชั้นโดนซอว์ดแทงแขนน่ะ ดีที่โดนแค่ผิวๆ แต่ก็นะ เจ็บอยู่ดี"เมต้าไนท์พูด"ตอนนี้อาคารนี่กำลังจะถล่ม ลูกน้องของเมดเทอร์บางส่วนก็ถูกจับแล้ว แต่ซอว์ดกับไนท์หนีไปได้"
     "เรารีบไปที่เรือเถอะนะครับ! น้องสาวของเคอร์บี้ อุ้ม บุ๊ค ทอย นนท์ คุณเอสโซ่ พวกเขาก็มาด้วย พวกเขาช่วยกันวางเส้นทางที่ให้พวกเราเข้าไปครับ!"บานดาน่าพูดขึ้นมา
     "เอ๊ะ?! มิโดริน่ะเหรอ!"เคอร์บี้พูดเสียงดัง ก่อนที่ระเบิดจะดังขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาจึงรีบวิ่งไปที่เรือที่พวกเขามา
     "ชั้นคิดว่ามันไม่น่าจะจบง่ายขนาดนี้นะ..."
     เคอร์บี้พูดขึ้นมาระหว่างที่เรือออกจากที่เกาะ ตัวอาคารถล่มลงมาหมดแล้ว และเกาะกำลังจะจมเพราะเมดเทอร์ติดระเบิดไว้ที่ใต้น้ำด้วย ทุกคนที่อยู่รอบๆเขา เพื่อนของเขาพากันทำหน้างุนงง
     "นายปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ เมดเทอร์ถึงจะหนีไปได้ แต่ชั้นเชื่อว่าพวกเขาจะจับได้แน่นอน"
     บุ๊คพูดกับเคอร์บี้ แต่นั่นกลับทำให้เคอร์บี้ตัดสินใจบางอย่างได้ทันที
     'ถ้าทุกอย่างมันเริ่มจากชั้น ชั้นก็จบมันด้วยตัวเอง'
     ..........
     "เคอร์บี้!!"
     "เคอร์บี้!!"
     เพื่อนของชั้นวิ่งกรูเข้ามากอดชั้นแทบทุกคน รวมถึงซากากิ
     "นายไม่เป็นไรใช่มั๊ย!"
     "ชั้น...ไม่เป็นไร"
     ชั้นพูดตอบกลับแต่ออกแนวลังเลใจ ชั้นยังคงกลัวที่มีคนตายเพื่อชั้น แต่ใช่ ชั้นตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไรต่อไป
     "ทุกคน เราต้องไปที่สถานนีตำรวจก่อนนะ...อ๊ะ!"
     มีนักข่าวมากมายมารุมตัวชั้นถามคำถามแบบเดียวกันทุกคนว่า
     เธอเป็นคนที่สามารถต่อกรเมดเทอร์ได้ใช่ไหม? เมดเทอร์ต้องการกำจัดตัวเธอในฐานะเป็นคนที่ล้างบาปได้ใช่ไหม
     ความจริงถูกเปิดเผยเพราะนักข่าวเหล่านี้ เรื่องหลุดจนได้ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงเสียแล้ว
     ชั้นพยายามเดินออกจากหมู่นักข่าวที่มาทำข่าวเกี่ยวกับชั้น เมต้าไนท์ คิลเลอร์ บานดาน่า ดีดีดี และมิโดริต่างก็ถูกนักข่าวซักไซร้ถามไถ่เรื่องเดียวกันว่าพวกเขาได้ชั้นล้างบาปมา แล้วตอนนี้รู้สึกอย่างไร พวกเขาบอกว่าไม่ตอบกันทุกคน ไม่มีใครอยากตอบนักข่าวเลย
     ชั้นเดินไปที่ข้างถนนที่มีรถเต็ม แต่ละคันพากันขับด้วยความเร็วสูง นักข่าวยังคงตามชั้นมา ชั้นไม่รู้ว่าจะหนียังไงแล้ว เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับชั้นก็พยายามช่วยกันกันออก แต่กลับยิ่งกลับเดิม มีทั้งกล้องโทรทัศน์กำลังถ่ายทอดสด แฟลชกล้องที่จะถ่ายรูปของเราไปลงหนังสือพิมพ์แม้ว่าจะอยู่หน้าไหนก็ตาม เสียงคำถามที่ถามมาแบบไม่ปราณีคนที่กำลังมีความทุกข์ ก้าวก่ายของเป็นส่วนตัวของแต่ละคน
     ใช่แล้ว...นี่เป็นโลกที่น่ากลัว โลกที่แสนน่ากลัว โลกที่นักข่าวย่ำยีบนความทุกข์ใจของชั้นที่อยู่ตอนนี้
     พวกเขาไม่เข้าใจหรอกว่าชั้นนั้นรู้สึกแย่แค่ไหน ไหนจะทั้งความรับผิดชอบที่จะมีในอนาคต ไหนจะทั้งคนรอบข้างชั้นที่จะพลอยเป็นอันตรายไปด้วย
     แต่ว่า ชั้นมีทางหนีทีไล่กับเรื่องแบบนี้แล้วล่ะ
     ชั้นหันหน้าเข้าทางถนนที่รถกำลังวิ่ง และบอกกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้น เพื่อน นักข่าว คนแถวนั้นว่า
     "ทุกคน....ลาก่อนนะ...."
     ชั้นเดินตรงไปที่ถนนในขณะที่รถบรรทุกวิ่งมาพอดี รถคันนั้นเหยียบแบรกเต็มที่แต่ก็สายไปเสียแล้ว
     ร่างของชั้นนั้นกระแทกกันรถเต็ม บวกกับความเร็วที่รถมาแล้ว ตัวของชั้นนั้นก็ลอยและตกลงมาที่พื้นถนน ใช่ ชั้นน่ะ...
     ชั้นตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย
     ชั้นเห็นเมต้าไนท์ คิลเลอร์ ดีดีดี บานดาน่า มิโดริ และคนอื่นๆวิ่งเข้ามาที่ตัวชั้น ชั้นเริ่มหายใจอ่อนแรงแล้ว หัวชั้นนั้นกระแทกกับพื้นถนนเต็มๆ ทำให้มีเลือดไหลออกมา เลือดนั้นไหลนองเต็มพื้นถนน มิโดริร้องไห้โหทันทีและพยายามเขย่าตัวชั้น แต่บานดาน่าบอกว่าถ้าทำแบบนั้น ชั้นจะยิ่งแย่กว่าเดิม ดีดีดีมองชั้นทั้งน้ำตา เมต้าไนท์ล้มลงกับพื้นพร้อมคิลเลอร์ พวกเขาพากันร้องไห้ อุ้มรีบโทรศัพธ์เรียกรถพยาบาล บุ๊คทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้พร้อมกับนนท์ ทอยเอามือมากุมปาก น้ำตาของเธอไหลลงข้างแก้ม คุณเอสโซ่พยายามไล่นักข่าวที่มาทำข่าว แต่ตอนนี้เอาแต่ถ่ายรูปชั้นที่นอนกองพื้นถนนกัน ส่วนเด็กคนนั้น...
     เด็กคนนั้นยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเฉยราวว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
     อ่า....ชั้นนึกอะไรออกแล้ว ตอนนี้...มันเหมือนตอนที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับชั้นเมื่อห้าปีก่อนเลย
     รถชน...
     ตอนนั้นชั้นกำลังจะข้ามถนนพร้อมเพื่อน แต่ว่าชั้นเดินช้ากว่านิดหน่อย ทันใดนั้นก็มีรถมาชนชั้นเต็มๆ ชั้นหัวฟาดพื้น มีรถพยาบาลมารับตัวชั้นไป แต่ว่าไม่ใช่ที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นชั้นก็จำอะไรไม่ได้ รู้ตัวอีกทีชั้นก็ฟื้นมาเจอหน้าแม่ชั้น แม่กอดชั้น และไม่ยอมพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชั้น
     ทำไมถึงมานึกได้ตอนนี้กันนะ
     ชั้นอยากจะทิ้งร่างนี้และลอยไปตามสายลมที่ผ่านตัวชั้นตอนนี้เต็มที่แล้วสิ ขอบคุณนะที่ไปช่วยชั้น ขอบคุณที่เป็นห่วงชั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วล่ะ
     ในที่สุดสติของชั้นก็เริ่มหลุดลอยไปเรื่อยๆจนชั้นไม่ได้ยินอะไรอีก...
    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น